เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ศาลอาญาคอร์รัปชั่นกลางของประเทศไทยมีคำพิพากษายกฟ้องอดีตเจ้าอาวาสพระอาจารย์คม ซึ่งมีชื่อจริงว่า คม คงแก้ววาส
หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ รายงานว่า อัยการไทยกล่าวหาเขาและผู้สมรู้ร่วมคิดอีก 8 คน ยักยอกเงินบริจาคจากวัดป่าธรรมคีรี จ.นครราชสีมา
ผู้ต้องหาอีกรายคือ วุฒิมา ท้าวหมอ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสก่อนคม, จุฑาธิป ภูโพธิวโรชุพันธุ์ – น้องสาวของคม, บุญยศักดิ์ ภัทรโกศล – คนขับรถของคม และพระภิกษุ 5 รูป ได้แก่ บุญทรง พันธ์ภูวงศ์, บัณฑิต ย้อยชา, ณัฐภัทร ตั้งใจสนอง, บุญเหลือ โพธิ์ทอง และธนกฤต ยศสุรินทร์
ผู้ต้องหาคมเก็บเงินที่ยักยอกไว้ในบัญชีธนาคาร และพี่สาวถอนเงินจากบัญชีนี้ 76 ครั้ง
เขาขอให้น้องสาวเก็บเงินบางส่วนไว้ที่บ้าน และพระสงฆ์ซ่อนข้าวของอื่นๆ ไว้ด้านนอกวัด
ต่อมาตำรวจไทยค้นพบสิ่งของจัดแสดง 1,455 ชิ้น รวมทั้งเงินสดและทรัพย์สินมูลค่า 299.5 ล้านบาท
ศาลตัดสินว่าคมมีความผิด 78 กระทง มีโทษจำคุก 6 ปี โดยรวมแล้วเขาถูกตัดสินจำคุก 468 ปี
จำเลย วุฒิมา ถูกพิพากษาว่ามีความผิด 78 กระทง มีโทษจำคุกรวม 312 ปี และจำเลย จุฑาทิพย์ ถูกพิพากษาว่ามีความผิด 77 กระทง มีโทษจำคุกรวม 308 ปี จำเลยอีกคนหนึ่งได้รับโทษจำคุกลดลงจาก 3 ปีเหลือ 2 ปีสำหรับความร่วมมือ
ตามกฎหมายไทยโทษจำคุกสูงสุดคือ 50 ปี
ตามเว็บไซต์ข่าวข่าวสด คมกองแก้วเคยเป็นพระภิกษุที่มีชื่อเสียงในหมู่ชนชั้นสูงและด้วยเหตุนี้วัดจึงได้รับบุญมากมาย
วัณโรค (อ้างอิงจาก Tuoi Tre)
“ผู้จัดงานที่อุทิศตน นักคิดที่รักษาไม่หาย นักสำรวจ ขี้ยาทางทีวี คนรักการเดินทาง ผู้ก่อปัญหา”