JN.1 เป็นตัวแปรเด่นของไวรัส SARS-CoV-2 ในประเทศไทย

เนื่องจากเชื้อ JN.1 สามารถแพร่เชื้อได้สูงและแพร่เชื้อได้หลายครั้ง คาดว่าจำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหลังวันหยุดปีใหม่

เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เก็บตัวอย่างผลตรวจโรคโควิด-19 จากประชาชนในกรุงเทพฯ ประเทศไทย (ภาพ: AFP/TTXVN)

ศาสตราจารย์ยง ภู่วรวรรณ นักไวรัสวิทยาชื่อดังของไทย กล่าวเมื่อวันที่ 11 มกราคมว่า ไวรัส SARS-CoV-2 ในรูปแบบ JN.1 เป็นตัวแปรที่พบได้ทั่วไปในประเทศ ตัวแปรนี้สามารถแพร่เชื้อได้สูงแต่มีอาการเล็กน้อย

บนเพจ Facebook ส่วนตัว ศาสตราจารย์ยง ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการศูนย์ไวรัสวิทยาคลินิก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ไวรัสสายพันธุ์ JN.1 ถูกค้นพบครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา และคาดว่าจะมาแทนที่สายพันธุ์อื่นๆ ของไวรัส SARS-CoV-2 เพราะสามารถแพร่กระจายได้ง่ายมาก

ตามที่เขาพูด ผู้ที่ติดเชื้อสายพันธุ์ JN.1 จะไม่แสดงอาการร้ายแรง บางคนอาจเป็นหวัดและเจ็บคอ เช่น โรคระบบทางเดินหายใจทั่วไป

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสายพันธุ์ JN.1 สามารถแพร่เชื้อได้สูงและแพร่เชื้อได้หลายครั้ง จึงคาดว่าจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 จะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหลังวันหยุดปีใหม่

ศาสตราจารย์ยงยังคาดการณ์ด้วยว่าจำนวนการติดเชื้อ JN.1 จะเริ่มลดลงในเดือนกุมภาพันธ์ และค่อยๆ ลดลงจนกระทั่งเริ่มฤดูกาลแพร่เชื้อครั้งถัดไปในเดือนมิถุนายน

ขณะเดียวกัน นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร ผู้อำนวยการกรมควบคุมโรค (ดีดีซี) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยังคงต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง

นพ.ธงชัย เตือนว่าถึงแม้คนส่วนใหญ่จะมีภูมิคุ้มกันและมีอาการไม่รุนแรง แต่กลุ่มเปราะบางควรระมัดระวัง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ไตวายเรื้อรัง โรคอ้วน และมะเร็ง

ปีที่แล้ว ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 652,868 ราย โดยมีผู้เสียชีวิต 848 รายที่เกี่ยวข้องกับโรคนี้ นายธงชัย คาดการณ์จำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในไทยในปีนี้จะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว

ตามรายงานของ VNA

Marjani Ekwensi

"ผู้คลั่งไคล้อินเทอร์เน็ต เว็บนินจา ผู้บุกเบิกโซเชียลมีเดีย นักคิดที่อุทิศตน เพื่อนของสัตว์ทุกหนทุกแห่ง"

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *