การสำรวจล่าสุดในประเทศไทยแสดงให้เห็นว่าเด็กอย่างน้อย 120,000 คนในประเทศนี้อาศัยอยู่ในสถาบันการศึกษาต่อเนื่อง ควรสังเกตว่า 90% ของเด็กเหล่านี้ยังมีพ่อแม่ที่ยังมีชีวิตอยู่อย่างน้อยหนึ่งคน แต่ความจริงก็คือพ่อแม่ไม่สามารถดูแลเด็กได้เนื่องจากความยากจนหรือไม่สามารถส่งลูกไปโรงเรียนได้
เดิมคนไทยเชื่อว่ามีเด็กประมาณ 50,000 คนอาศัยและเรียนในสถานศึกษาทั้งแบบกินนอนและแบบต่อเนื่อง
ดร.กัณฑ์มณี ลดาพงษ์พัฒนา – คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.มหิดล กล่าวว่า “เมื่อก่อนนับได้เฉพาะเด็กที่อยู่ในสถาบันของรัฐ กลัวจะมีเด็ก รร.เอกชน ที่เรียนไม่ครบจำนวนมาก.. มีเด็กจำนวนมากในความดูแลประเภทอื่นที่ต้องการความช่วยเหลือทั้งด้านสุขภาพและการศึกษา”
สาเหตุหนึ่งที่ศูนย์ดูแลเด็กเอกชนส่วนใหญ่ไม่ได้จดทะเบียนเนื่องจากข้อกำหนดทางกฎหมายบางประการ เช่น ตัวแทนของสถานดูแลเด็กต้องเป็นเจ้าของที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์ดูแลเด็ก สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ทำงานใต้ดิน หมายความว่าเด็กหลายแสนคนที่อาศัยอยู่ที่นั่นถูกละเลยโดยสิ้นเชิงจากระบบการศึกษาและการดูแลทางสังคม
“เป็นเรื่องน่ากังวลเพราะไม่มีหน่วยงานของรัฐใดทราบเกี่ยวกับเด็กเหล่านี้ และสถานพยาบาลไม่ได้รับการดูแลอย่างดี” มูฮัมหมัด ราฟิก ข่าน ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การยูนิเซฟประจำประเทศไทยกล่าว เด็ก”.
เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ออกแผนปฏิบัติการแห่งชาติเกี่ยวกับการดูแลเด็ก แต่โปรแกรมดังกล่าวไม่ได้ผลเนื่องจากขาดทรัพยากรและบุคลากร
“อีกทางหนึ่งคือพาเด็กที่ยังมีพ่อแม่กลับไปอยู่กับครอบครัว ถ้าไม่จำเป็น ครอบครัวไม่ควรส่งเด็กไปโรงเรียนประจำ” พญ.กันต์มณี ลดาพงษ์พัฒนา กล่าว
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ในกรณีที่มีความล่อแหลมสูง ครอบครัวสามารถส่งลูกไปโรงเรียนประจำได้เสมอ โดยที่ยังติดต่อกับพ่อแม่อยู่ เพราะหากไม่ได้รับการเอาใจใส่จากญาติๆ อย่างเพียงพอ เด็กจะลืมครอบครัวและส่งผลต่อพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจในภายหลัง
* เชิญผู้อ่านติดตามรายการที่ออกอากาศโดย Vietnam Television ทาง TV Online และ วีทีวีโก!
“ผู้คลั่งไคล้อินเทอร์เน็ต เว็บนินจา ผู้บุกเบิกโซเชียลมีเดีย นักคิดที่อุทิศตน เพื่อนของสัตว์ทุกหนทุกแห่ง”