หลังจากที่ทีมเวียดนามแพ้ญี่ปุ่น 2-4 เมื่อคืนที่ผ่านมา (14 มกราคม) หนังสือพิมพ์สยามสปอร์ตของไทยเขียนว่า “ญี่ปุ่นผ่านเกมที่ต่อสู้อย่างหนักเพื่อเอาชนะทีมเวียดนาม 4-2” มินามิโนะยิง 2 ประตูในนัดแรกของผู้เล่นรายนี้ในฟุตบอลโลก เอเชียนคัพ 2023.
“ทีมอันดับหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (หมายถึงทีมเวียดนาม) ต่อสู้อย่างหนัก แต่ชัยชนะครั้งสุดท้ายยังคงเป็นของทีมญี่ปุ่น ทีมญี่ปุ่นคว้า 3 แต้มแรกของเอเชียนคัพปีนี้” สยามสปอร์ตกล่าวเสริม
เมื่อประมาณสองสัปดาห์ก่อน ญี่ปุ่น เอาชนะทีมไทย 5-0 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในเกมกระชับมิตร ดังนั้นการที่ทีมเวียดนามเสีย 2 ประตูให้ญี่ปุ่นในนัดนี้จึงถือว่าน่าประหลาดใจมาก
หนังสือพิมพ์สยามสปอร์ตแชร์ว่า “มินามิโนะเปิดสกอร์ให้ญี่ปุ่นในนาทีที่ 11 แต่ทีมเวียดนามใช้เวลาไม่นานในการพลิกสถานการณ์ โดยมีสถานการณ์ดีๆ ได้รับการแก้ไขแล้ว”
“เหงียน ดินห์ บั๊ก โหม่งเตะมุม วางบอลเข้ามุมไกลของประตูแล้วโดนตาข่ายญี่ปุ่น แถมฟรีคิกอีกลูกยังบอลถึงเท้าของ ตวน ไห่ และนักเตะคนนี้ทำประตูเพิ่มสกอร์ 2- 1 ให้กับทีมเวียดนาม
ประตูของทีมเวียดนามนี้เปรียบเสมือนการทำลายความภาคภูมิใจของบลูซามูไรญี่ปุ่น” สยามสปอร์ตกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ญี่ปุ่นจะกดดันทีมเวียดนามและทำประตูเพื่อคว้าชัย เพราะทีมจากแดนอาทิตย์อุทัยแข็งแกร่งกว่าตัวแทนฟุตบอลเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เสียอีก
สยามสปอร์ต ให้ความเห็นว่า “ก่อนพักครึ่งระหว่างสองครึ่ง มินามิโนะ และนากามูระทำประตูให้ญี่ปุ่นขึ้นนำ 3-2 ครึ่งหลัง อายาเสะ อูเอดะ ผนึกชัยชนะให้ญี่ปุ่น 4-2”
ขณะเดียวกัน ไทยรัฐหนังสือพิมพ์ชั้นนำของไทยกล่าวว่า “น่าเสียดายที่ทีมเวียดนามพ่ายแพ้ให้กับญี่ปุ่น ทีมเวียดนามต่อสู้อย่างหนัก แต่ท้ายที่สุดแล้ว ญี่ปุ่นยังคงเป็นกำลังอันดับหนึ่งในเอเชีย” “.
“ญี่ปุ่นหลับไปสักพักในการเจอกับทีมเวียดนามแต่ญี่ปุ่นก็สามารถกลับมาได้ จบนัดนี้ ทีมจากแดนอาทิตย์อุทัยชนะ 4-2 พวกเขาชนะในเกมแรก 3 แต้มตามคาด” ไทยรัฐกล่าวต่อ
ส่วนทีมเวียดนามนั้น หนังสือพิมพ์ไทยรายวันแสดงความเห็นว่า “ทีมของโค้ชทรุสซิเออร์ต้องตั้งตารออีก 2 นัดที่เหลือกับอินโดนีเซีย (19 มกราคม) และอิรัก (24 มกราคม)”
ชม Asian Cup 2023 แบบสดเต็มๆ บน FPT Play ได้ที่: https://fptplay.vn/
“ผู้ประกอบการ นักเล่นเกมสมัครเล่น ผู้สนับสนุนซอมบี้ นักสื่อสารที่ถ่อมตนอย่างไม่พอใจ นักอ่านที่ภาคภูมิใจ”