หลังจากกลับมาเติบโตอีกครั้ง กำลังซื้อในตลาดรถยนต์ของเวียดนามก็ชะลอตัวลงในเดือนนี้ อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจำหน่ายยังคงนำเข้ารถยนต์จำนวนมากไปยังเวียดนาม เนื่องจากช่วงการขายปี 2566 เข้าสู่ช่วง “เร่งรีบ” โดยหวังว่าจะรับประกันอุปทานและปรับปรุงยอดขาย ตามสถิติเบื้องต้นจากกรมศุลกากร ณ เดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 บริษัทรถยนต์ของเวียดนามนำเข้ารถยนต์ทุกประเภทรวม 9,612 คัน มูลค่าการซื้อขาย 254.85 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2566 จำนวนรถยนต์ที่นำเข้าในเวียดนามเพิ่มขึ้น 29.4% และมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น 46.7%
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ในเวียดนามมีความหวังสูงในการฟื้นตัวของยอดขายในช่วงฤดูการขายสิ้นปี แม้ว่ากำลังซื้อรถยนต์ในปีนี้จะยังคงต่ำกว่าปีที่แล้วประมาณ 30% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี ช่วงเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนมกราคมปีหน้า ถือเป็นช่วง “เร่งรีบ” ของตลาดรถยนต์ ซึ่งเป็นช่วงที่ความต้องการซื้อรถยนต์ของชาวเวียดนามเพิ่มขึ้นบ่อยครั้ง
สถิติยอดขายรถยนต์ในเวียดนามปี 2565 โตโยต้าและฮุนได “กลับมาแรง 2 ม้าอีกครั้ง”
จากจำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่นำเข้ามาในเวียดนาม รถยนต์ประกอบที่ผลิตในประเทศไทยและอินโดนีเซียเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทรถยนต์ของเวียดนามนำเข้ารถยนต์จากไทยจำนวน 4,580 คัน มูลค่ารวมเกือบ 114.4 ล้านเหรียญสหรัฐ รถยนต์นำเข้าจากอินโดนีเซียมีจำนวน 3,191 คัน มูลค่าเทียบเท่า 51.6 ล้านเหรียญสหรัฐ
ดังนั้นปริมาณรถยนต์จากประเทศไทยและอินโดนีเซียเพียงอย่างเดียวจึงคิดเป็นมากกว่า 80% ของปริมาณรถยนต์ที่นำเข้ามาเวียดนามในเดือนตุลาคม 2566 จึงไม่แปลกมากนักเนื่องจากประเทศไทยและอินโดนีเซียถือเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดสองแห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้รถยนต์ที่นำเข้าจากประเทศในกลุ่มอาเซียนยังคงเสียภาษีนำเข้า 0%
ตลาดรถยนต์เวียดนามปี 2565 มีความโดดเด่นอย่างไร?
นอกจากนี้ แนวโน้มของคนเวียดนามที่ชื่นชอบรถยนต์นำเข้ามากขึ้นยังคงกระตุ้นให้ผู้ผลิตรถยนต์เพิ่มจำนวนรถยนต์ที่นำเข้าในเวียดนามอย่าง “ก้าวร้าว” ข้อมูลยอดขายจากสมาคมผู้ผลิตรถยนต์เวียดนาม (VAMA) ระบุว่าในเดือนตุลาคม 2566 ยอดขายรถยนต์นำเข้าเต็มจำนวนอยู่ที่ 8,955 คัน เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2566
โดยรวมแล้ว ในช่วง 10 เดือนสุดท้ายของปี 2566 บริษัทเวียดนามนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปรวม 103,778 คัน โดยมีมูลค่าการซื้อขายเกือบ 2.5 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 19.4% ในด้านปริมาณ และ 16.2% ในด้านมูลค่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว