เพลิงไหม้และควันจากถังน้ำมันที่ท่าเรือมาบตาพุด จ.ระยอง เช้าวันที่ 9 พ.ค. (ภาพ: เพจเฟซบุ๊กโซเชียลระยอง)
เหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง และควบคุมได้นานกว่า 6 ชั่วโมงต่อมา นักดับเพลิงกล่าวว่าเพลิงไหม้เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 9 พฤษภาคม (เวลาท้องถิ่น) และลุกลามอย่างรวดเร็ว กรมประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง ระบุว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงคาดต้องใช้เวลากว่า 10 ชั่วโมงในการดับไฟที่โกดังเคมีภัณฑ์ให้หมด
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่โดยรอบ คนงานและผู้อยู่อาศัยประมาณ 400 คนได้ถูกย้ายไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว
คลังสินค้าเคมีมีความจุ 2,500 ม3 เป็นเจ้าของโดยบริษัท มาบตาพุด เทอร์มินัล ซึ่งดำเนินธุรกิจท่าเรือพาณิชย์และโรงเก็บปิโตรเคมี พวกเขากล่าวว่าถังบรรจุน้ำมันเบนซินแบบไพโรไลซิส ซึ่งเป็นส่วนผสมของสารเคมีที่ใช้กันทั่วไปในการผสมน้ำมันเบนซิน รายงานเบื้องต้นระบุว่าถังเคมีที่กำลังลุกไหม้มีสารประกอบไฮโดรคาร์บอน C9+ ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการผลิตรีเอเจนต์พลาสติก ภาชนะที่ติดไฟได้ซึ่งมีตัวทำละลายถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับแจ้งที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 9 พ.ค. เวลาประมาณ 10.45 น. ที่สถานี บมจ.เอสซีจี เคมิคอลส์ (SCGC) บริษัทปิโตรเคมีในเครือปูนซิเมนต์ไทย (SCG)
วิดีโอและภาพถ่ายจากที่เกิดเหตุเผยให้เห็นกลุ่มควันดำขนาดใหญ่และเปลวไฟที่รุนแรงกลืนกินถังสีขาวที่ตั้งอยู่ใกล้กับถังเคมีอื่นๆ หลายแห่ง
เอสซีจี ระบุในแถลงการณ์ว่า กำลังสอบสวนสาเหตุของเพลิงไหม้ และจะดำเนินการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก คำแถลงแสดงความเสียใจและระบุว่าบริษัทได้เตรียมการชดเชยผู้ที่ได้รับผลกระทบ
ขอบเขตของความเสียหายยังคงอยู่ระหว่างการประเมิน การดำเนินการทั้งหมดที่คลังสินค้าถูกระงับ และบริษัท “เข้าควบคุมสถานการณ์ได้ทันที”
ในปี 2564 เอสซีจีได้รับคำสั่งให้หยุดดำเนินการชั่วคราวหลังจากรถถังอีกคันหนึ่งของเอสซีจีเกิดระเบิดและเกิดเพลิงไหม้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 รายและบาดเจ็บสาหัส 2 ราย
* ขอเชิญชวนผู้อ่านติดตามรายการที่ออกอากาศโดย Vietnam Television ทาง TV Online และ วีทีวีโก–
“มือสมัครเล่นเก็บตัว ผู้บุกเบิกวัฒนธรรมป๊อป แฟนเบคอนที่รักษาไม่หาย”