กระเป๋าเดินทางของเหยื่อที่เสียชีวิตที่โรงแรมแกรนด์ไฮแอทเอราวัณ (ประเทศไทย) ถูกเปิดออกทีละคน ตำรวจยังคงค้นหาเบาะแสเกี่ยวกับพิษไซยาไนด์ต่อไป
ตำรวจนำกระเป๋าเดินทางของผู้เสียหายออกจากที่เกิดเหตุ (ภาพ ข่าวสด)
เมื่อบ่ายวันที่ 18 ก.ค. พล.ต. อิทธิพล อัจฉริยาประดิษฐ์ กรมตำรวจลุมพินี (กรุงเทพฯ) เปิดเผยว่า ญาติ 5 คน จากกลุ่มนักท่องเที่ยว 6 คนที่เสียชีวิตที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ (16 ก.ค.) ได้รับเชิญให้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับ สถานีตำรวจ เพื่อเป็นสักขีพยานในการเปิดกระเป๋าเดินทางของผู้เสียหาย
โดยรวมแล้วพบกระเป๋าเดินทางจำนวน 8 ใบอยู่ในความครอบครองของเหยื่อ
การเปิดกระเป๋าเดินทางดังกล่าวเกิดขึ้นต่อหน้าตำรวจ แพทย์นิติเวช ญาติของเหยื่อ และเจ้าหน้าที่การทูตที่เกี่ยวข้อง ตามรายงานของข่าวสด (หนังสือพิมพ์ไทย)
ขณะนี้ตำรวจไทยกำลังรวบรวมและตรวจสอบสิ่งของในกระเป๋าเดินทางทั้งหมด 8 ใบ
ก่อนหน้านี้ วันที่ 17 ก.ค. ทีมสืบสวน ตร.กรุงเทพมหานคร ได้สอบปากคำ นายฟาน หง็อก วู อายุ 35 ปี ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นไกด์นำเที่ยว 6 ราย ที่เสียชีวิตที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ
ในระหว่างการสอบสวน นายวู ยอมรับว่ารู้จักคนกลุ่มนักท่องเที่ยว คือ นางสาวเหงียน ถิ เฟือง ลาน อายุ 47 ปี (1 ใน 6 เหยื่อ)
ตั้งแต่วันที่ 3 ถึง 5 กรกฎาคม คุณลานขอให้วูซื้อยาชื่อ “ยางู” ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ายานี้มีผลอย่างไร
สำหรับ “ยางู” ที่นางลานกำลังหาซื้อนั้น ตำรวจไทยระบุว่า อาจเป็นยาชูกำลังหรือยารักษาโรคกระดูกและข้อได้
เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ตร.ลุมพินี เปิดเผยว่า ไม่พบสิ่งใดที่คล้ายกับ “ยางู” ในกระเป๋าเดินทางของ น.ส.ลาน รวมทั้งของเหยื่อรายอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม มียาตัวหนึ่งที่บรรจุอย่างระมัดระวังในถุงพลาสติก (อยู่ในกระเป๋าเดินทางของหนึ่งในเหยื่อ 6 ราย) ปัจจุบันยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นไซยาไนด์หรือไม่ ตำรวจกำลังรอผลการค้นพบของหน่วยงานนิติเวช
ผู้เสียหายลากกระเป๋าเดินทางไปที่โรงแรม ก่อนเกิดพิษ (ภาพ: The Sun)
พบยาอีกจำนวนหนึ่งอยู่ในกระเป๋าเดินทางของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เสียชีวิต 6 ราย ตำรวจกำลังตรวจสอบว่ายาเหล่านี้คืออะไร นอกจากนี้ ยังพบของว่างในกระเป๋าเดินทางของเหยื่อด้วย
สิ่งของส่วนใหญ่ในกระเป๋าเดินทางทั้ง 8 ใบ ได้แก่ เสื้อผ้า รองเท้า และของใช้ส่วนตัว กระเป๋าของเหยื่อทั้ง 6 รายถูกเก็บไว้อย่างดีพร้อมที่จะขนออกไป และไม่มีร่องรอยการก่อวินาศกรรมใดๆ ไม่พบของเหลวในกระเป๋าเดินทาง
จากข้อมูลของ CNN ไซยาไนด์มักมีอยู่ในรูปของผลึกเหลวหรือไม่มีสี ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะแยกแยะด้วยตาเปล่า
ข่าวสดรายงานเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ว่าขณะทำงานร่วมกับตำรวจ ลูกชาย (ไม่ระบุชื่อ) ของหนึ่งในเหยื่อ 6 รายกล่าวว่าเหยื่อรู้จักกันและบริจาคเงินเพื่อลงทุนในธุรกิจแห่งหนึ่ง
“อย่างไรก็ตาม ฉันไม่ทราบรายละเอียดของโครงการลงทุนนี้” ลูกชายกล่าว
ในส่วนของความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่างเหยื่อนั้น ตำรวจไทยได้ติดต่อกับทางการเวียดนามเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม ข่าวสดรายงาน
ก่อนหน้านี้ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 17 ก.ค. จากผลการสอบสวนเบื้องต้น ตำรวจไทย กล่าวว่า นางเชอรีน ชอง ชาวอเมริกันวัย 56 ปี (1 ใน 6 เหยื่อ) เป็นผู้วางยาพิษ เธอและอีกห้าคน ด้วยไซยาไนด์
พล.ต.ธีรเดช ธรรมสุธี หัวหน้าทีมสืบสวนคดีทุน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มมีสาเหตุมาจากโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลในประเทศญี่ปุ่น
โครงการนี้สูญเสียเงินไป 10 ล้านบาท (ประมาณ 278,000 เหรียญสหรัฐ) และกล่าวกันว่านางสาวชองเป็นผู้ที่มีหนี้มากที่สุด
แหล่งที่มา: [Link nguồn]
ไกด์นำเที่ยวกลุ่มเหยื่อ 6 ราย เสียชีวิตที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ เปิดเผยข้อมูลน่าตกใจเมื่อตำรวจสอบสวน
ตามคำบอกเล่าของวงน้ำ-ข้าวสด -[Tên nguồn]-
“ผู้ประกอบการ นักเล่นเกมสมัครเล่น ผู้สนับสนุนซอมบี้ นักสื่อสารที่ถ่อมตนอย่างไม่พอใจ นักอ่านที่ภาคภูมิใจ”