ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งเป็นช่วงพีคท่องเที่ยวของประเทศไทย นักท่องเที่ยวชาวจีนสามารถเข้าได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า
การประกาศข้างต้นจัดทำโดยนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กันยายน ดังนั้นนักท่องเที่ยวชาวจีนและคาซัคสามารถเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าตั้งแต่วันที่ 25 กันยายนถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567 รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวสุดาวัน หวังสุภกิจโกศล กล่าวว่าการยกเว้นวีซ่าชั่วคราวคาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้น 5 ล้านคน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวให้อยู่ในระดับก่อนเกิดการระบาดที่ 87,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2567 นับตั้งแต่ต้นปี ประเทศไทยได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมากกว่า 18,5 ล้านคน ภายในสิ้นปีนี้ คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะสูงถึง 28 ล้านคน จากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยว รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ณ วันที่ 11 กันยายน อยู่ที่ประมาณ 775 พันล้านบาท (เกือบ 22 พันล้านดอลลาร์)
จีนเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดที่ส่งนักท่องเที่ยวมายังประเทศไทยก่อนเกิดการระบาด ในปี 2562 นักท่องเที่ยวชาวจีนคิดเป็นเกือบหนึ่งในสามของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 39.8 ล้านคนที่มาเยือนประเทศไทย รัฐบาลยังสังเกตเห็นว่ามีนักท่องเที่ยวชาวคาซัคมาเยือนเพิ่มมากขึ้น ภายในสิ้นปีนี้ คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวคาซัคที่เดินทางมาเพื่อหนีความหนาวเย็นจะ “เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ” ตามที่นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน กล่าว
ผู้นำรัฐบาลกล่าวว่านักท่องเที่ยวจากบางประเทศต้องเผชิญกับขั้นตอนการยื่นขอวีซ่าไทยที่ยุ่งยากและมีราคาแพง นี่จะเป็นอุปสรรคต่อรายได้จากการท่องเที่ยวในปีนี้
ก่อนที่จะเข้าสู่การเมือง นายเศรษฐาเป็นที่รู้จักในนาม “เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์” และเป็นประธานของบริษัทดำเนินกิจการโรงแรมสัญชาติอเมริกัน สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล นายกรัฐมนตรีคนใหม่กล่าวว่าเขาต้องการขยายรายชื่อประเทศปลอดวีซ่า และเพิ่มระยะเวลาการพำนักสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่จาก 15 เป็น 30 วัน
ในเดือนสิงหาคม นายเศรษฐาได้พบกับตัวแทนสายการบินเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวคิดริเริ่มในการส่งเสริมการท่องเที่ยว นายชัย วัชรงค์ โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ประเทศไทยตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคนในปีหน้า ซึ่งเทียบเท่ากับจำนวนนักท่องเที่ยวก่อนเกิดการระบาด
นายมินห์ (ตาม สคส–
“ผู้ประกอบการ นักเล่นเกมสมัครเล่น ผู้สนับสนุนซอมบี้ นักสื่อสารที่ถ่อมตนอย่างไม่พอใจ นักอ่านที่ภาคภูมิใจ”