เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกาศระงับการเดินทางไปทำธุรกิจในต่างประเทศเป็นเวลา 2 เดือน โดยกล่าวว่าเขาเดินทางไปต่างประเทศมากเกินไปนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง
“ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคมถึง 15 พฤษภาคม ฉันจะไม่ไปต่างประเทศ ฉันทราบความคิดเห็นและข้อกังวลของคุณ แต่ฉันต้องย้ำว่าการเดินทางไปต่างประเทศเป็นประโยชน์สูงสุดของประเทศ ฉันจะไปเยี่ยมชมสถานีขนส่งหมอชิต ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้มีรายได้น้อยใช้” นายกรัฐมนตรี เศรษฐา นายกรัฐมนตรีของไทย กล่าวในโพสต์บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก X เมื่อวันที่ 20 มีนาคม อ้างอิงจาก บางกอกโพสต์–
ความเห็นของนายเศรษฐาเชื่อว่าเป็นการตอบบทความของนักข่าวสรกล อดุลยานนท์ ที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ ประชาชาติธุรกิจ– ผู้สื่อข่าวรายนี้เรียกร้องให้หัวหน้ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับปัญหาภายในประเทศมากขึ้น และเยี่ยมชมสถานีขนส่งหมอชิต และตรวจสอบกิจกรรมการดับเพลิงในพื้นที่ภาคเหนือซึ่งปัจจุบันได้รับผลกระทบจากมลพิษที่ปนเปื้อนด้วยฝุ่นละเอียด
นายเศรษฐาถูกหลายคนวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ให้ความสำคัญกับปัญหามลพิษทางอากาศของประเทศแม้จะเดินทางไปทำธุรกิจในต่างประเทศบ่อยครั้งก็ตาม
“นายกรัฐมนตรีของเราต้องสร้างสถิติโลกในการเดินทางไปทำธุรกิจต่างประเทศโดยประมุขแห่งรัฐมากที่สุด คำถามที่ใหญ่ที่สุดคือผลลัพธ์อยู่ที่ไหน” ส.ว.สมชาย สว่างการกล่าว
ตาม ไทยพีบีเอสเวิลด์นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ได้สร้างสถิติใหม่จำนวนการเดินทางไปต่างประเทศนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เขาได้ไปเยือน 16 ประเทศ และใช้เวลาถึง 52 วัน (เทียบเท่าประมาณ 30% ของเวลา) ทำงานในต่างประเทศ
การเดินทางครั้งล่าสุดของเขารวมถึงการเยือนเยอรมนีและฝรั่งเศส ตามด้วยการเยือนออสเตรเลียอย่างเป็นทางการ และการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดพิเศษเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์อาเซียน-ออสเตรเลียในเมลเบิร์น นายเศรษฐากล่าวว่าการเดินทางของเขามีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการลงทุนและการท่องเที่ยวในประเทศไทย
“แฟนท่องเที่ยว เกมเมอร์ ผู้คลั่งไคล้วัฒนธรรมป๊อปฮาร์ดคอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโซเชียลมีเดียมือสมัครเล่น คอฟฟี่ เว็บเทรลเบลเซอร์”