การแสดงสดจากศิลปินเวียดนามอย่าง Quang Hung MasterD, F Band, Candle, Do Thao My, Adam Band และศิลปินรับเชิญชาวไทยอย่าง DJ MATOOM นำปาร์ตี้ดนตรีที่สดใสและมีสีสัน
การแสดงสดครั้งแรกกับศิลปินชาวเวียดนามที่ได้รับอิทธิพลจากไทย
ประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสเพลิดเพลินกับ “เพลงฮิต” ของไทยผ่านการแสดงใหม่ของศิลปินเวียดนาม
การผสมผสานระหว่างเพลงไทย-เวียดนามและเพลงเวียดนามที่แปลเป็นภาษาไทยยังสร้างความประหลาดใจให้กับผู้ชมอีกมากมาย
เญิ๊ต มินห์ ลีดเดอร์และมือกีตาร์วง F Band เล่าว่าคนในวงค่อนข้างประหม่าเมื่อพวกเขาร้องเพลงไทยเป็นครั้งแรกในการแสดงสด สิ่งที่กังวลที่สุดคือการออกเสียงผิด สมาชิกไปเรียนภาษาไทยเพื่อร้องเพลงบนเวทีอย่างมั่นใจและดีใจที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากผู้ชม
“ประเทศไทยเป็นที่ชื่นชอบของชาวเวียดนามตั้งแต่วัฒนธรรม อาหาร ผู้คนไปจนถึงภาพยนตร์และโฆษณา เพลงไทยฟังง่าย สนุกสนาน น่าสนใจและมีเสน่ห์
ในอนาคตอันใกล้นี้ วง F Band จะมีโปรเจกต์เพลงผสมเวียดนาม-ไทย และเพลงที่แต่งเองด้วย เป็นของขวัญที่ทางกลุ่มต้องการมอบให้กับประเทศที่มีอัธยาศัยดีอันเป็นที่รัก” – นายเญิ๊ต มินห์ กล่าว
เวียดนามเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับคอนเสิร์ตเพลงไทย
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นอกจากเกาหลี จีน ญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกาแล้ว คนหนุ่มสาวชาวเวียดนามยังให้ความสนใจกับวัฒนธรรม ศิลปะ และความบันเทิงของไทยมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เพียงแต่ภาพยนตร์ไทยและเพลงไทยจะได้รับการตอบรับที่ดีเท่านั้น การเรียนภาษาไทยก็กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ตลาดเวียดนามยังไม่มีการแสดงดนตรีไทยสดของตนเอง ผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ด้วยศักยภาพ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม Dang Le Thien An นักแปลชาวไทยจึงยึดมั่นในความคิดที่จะจัดคอนเสิร์ต Ma-na-kha กับเพื่อนของเธอ Huyen Nga ซึ่งทำงานที่ Music One Theatre
นั่งอยู่ใต้แถวสุดท้าย กลุ่มเพื่อน Thien Bao, Dao Linh, Huong Sa, Thuy Linh โห่ร้องอย่างกระตือรือร้นและร้องเพลงทุกเพลง Thien Bao กล่าวว่าคุณเรียนภาษาไทยเพราะคุณชอบหนังไทยและคุณชอบดนตรีไทยเพราะวัฒนธรรมตะวันออกที่ชัดเจนและใกล้ชิดกับคนเวียดนาม
เปาแปลกใจมากที่รู้ว่ามีการแสดงดนตรีไทยสดในเวียดนาม จึงชวนเพื่อน ๆ ที่เรียนภาษาไทยไปซื้อบัตรทันที
“การแสดงสดตื่นตาตื่นใจเกินความคาดหมาย ดนตรี การขับร้องแบบไทยของศิลปินเวียดนาม แสง สี เสียง ล้วน ‘สุดยอด’ ผมดีใจมากที่การแสดงสดสร้างคนดีให้คนรุ่นใหม่ที่รักดนตรีไทยอย่าง ฉันพบคู่ชีวิตเพลิดเพลินกับดนตรีด้วยกัน “- เทียนเบ้ากล่าว