VinFast ได้ประกาศแผนการเข้าสู่ตลาดอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ และกำลังเตรียมดำเนินธุรกิจในประเทศกัมพูชาและลาว
ที่อินโดนีเซียบริษัทจะสร้างโรงงานผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ เช่น ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย… ไทยจึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางต่อไปของผู้ผลิตรถยนต์เวียดนามซึ่งล้วนเข้าใจได้หมด
สัญญาณต่างๆ แสดงให้เห็นว่า VinFast กำลังจะมาถึงประเทศไทย
บนแพลตฟอร์ม Linkedin ข้อมูลการรับสมัครปรากฏสำหรับสำนักงาน VinFast ประเทศไทย โดยมีตำแหน่งต่างๆ เช่น ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล ผู้อำนวยการฝ่ายขนส่ง ผู้อำนวยการฝ่ายขาย และรอง CEO
รูปภาพ VinFast โพสต์ข้อมูลการรับสมัครในประเทศไทย – ภาพหน้าจอ
ก่อนหน้านี้เว็บไซต์ข่าวรถยนต์ไทยบางแห่งเช่น สยามคาร์,ออโต้เดฟท์ ยังรายงานด้วยว่า VinFast กำลังเตรียมเข้าสู่ตลาดรถยนต์ของประเทศ เว็บไซต์เหล่านี้ประเมินว่าในปี 2567 VF 8 และ VF 9 จะเป็นรถยนต์สองรุ่นแรกที่ VinFast จะนำเข้ามาในประเทศไทย
นอกจากนี้บนโซเชียลเน็ตเวิร์กยังมีรูปภาพของ กิจกรรมแนะนำตลาด VinFast Thai สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า VinFast กำลังจะเข้าสู่ตลาดเพื่อนบ้าน
แม้ว่าสื่อไทยคาดการณ์ว่า VF 8 และ VF 9 จะมาถึงไทยก่อน แต่ก็อาจไม่ใช่รุ่นหลัก อันที่จริงในงานเดือนพฤษภาคม 2023 ที่กรุงเทพฯ VinFast ได้ประกาศความตั้งใจที่จะขยายสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าระดับภูมิภาค และจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นพวงมาลัยขวา 4 รุ่นในตลาดต่างประเทศ
ข้อมูลการลงทุนของอินโดนีเซียเปิดเผยเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่ารถยนต์รุ่นเหล่านี้ ได้แก่ VF e34, VF 5, VF 6 และ VF 7
อย่างไรก็ตาม VinFast ยังไม่ได้ทำการยืนยันใดๆ
หาก VinFast ตัดสินใจก่อตั้งตัวเองในประเทศไทยก็คงไม่แปลกใจ เพราะบริษัทเคยกล่าวไว้ว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดที่มีความสำคัญมาก
Ms. Le Thi Thu Thuy ประธานคณะกรรมการบริหารของ VinFast เคยกล่าวไว้ว่า “การขยายไปสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การพัฒนาระดับโลกของ VinFast เป้าหมายของเราคือการนำโซลูชั่นการคมนาคมที่ชาญฉลาดและปลอดภัยและประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาสู่ประเทศในกลุ่มอาเซียน ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมอนาคตสีเขียวสำหรับทุกคน »
ชื่อเล่นว่า “ช่องแคบเอเชีย” ประเทศไทยมีอุตสาหกรรมยานยนต์ที่แข็งแกร่ง ประเทศไทยเป็นหนึ่งใน 10 ประเทศผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกในปี 2565 ตามรายงานของสถาบันยานยนต์ โดยมียอดส่งมอบ 1.88 ล้านคัน
อุตสาหกรรมรถยนต์คิดเป็น 2% ของ GDP ของประเทศนี้ ในขณะที่อุตสาหกรรมการขายและซ่อมแซมรถยนต์และรถจักรยานยนต์คิดเป็น 16% ของ GDP
ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 17 ของโลกในด้านการส่งออกรถยนต์ โดยมีผู้ผลิตและประกอบรถยนต์ขนาดเล็ก 20 ราย ผู้ผลิตและประกอบรถยนต์หนัก 10 ราย โดยมีกำลังการผลิตรวมประมาณ 3 ล้านคันต่อปี
ตามการคาดการณ์ ภายในปี 2573 การผลิตรถยนต์ในประเทศไทยจะสูงถึง 2.5 ล้านคัน โดยในจำนวนนี้ประมาณ 30% จะเป็นยานยนต์ที่ไร้มลพิษ
ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมีสูงเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลในการลดภาษีนำเข้าและภาษีการบริโภคพิเศษ รวมถึงเงินอุดหนุนสำหรับผู้ซื้อ
มาตรการดังกล่าวมีผลตั้งแต่ปี 2565 ถึง 2570 ดึงดูดการลงทุนระลอกใหม่ โดยผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน เช่น บีวายดี และเกรท วอลล์ มอเตอร์ กำลังสร้างโรงงานในประเทศไทย
รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นยอดนิยมในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ขนาดเล็กและขนาดเล็กจากแบรนด์จีน เช่น NETA, BYD, Wuling, MG, GWM บริษัทจีนคิดเป็น 80% ของส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้า แสดงให้เห็นว่ารถยนต์จีนเป็นคู่แข่งสำคัญของ VinFast ในประเทศไทย
ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2566 รัฐบาลไทยไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้นเท่านั้นที่ประกาศว่าผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น 4 รายวางแผนที่จะลงทุนด้านรถยนต์ไฟฟ้ามูลค่า 1.5 แสนล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า แสดงให้เห็นว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยมีความไดนามิกสูง การแข่งขันจะรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม
กฤษฎา อุตโมทย์ ประธานสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าแห่งประเทศไทย กล่าวกับ Bloomberg ว่า “ในปีนี้ เราจะได้เห็นงานเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าหลายรายการโดยผู้ผลิตที่ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมในโครงการจูงใจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ยานพาหนะในประเทศไทย โปรแกรมนี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดภายในประเทศ »