ในเช้าวันที่ 31 ตุลาคม โต๊ะอนุสรณ์ถูกเปิดขึ้นใกล้กับสถานที่เกิดเหตุโศกนาฏกรรมในเขตอิแทวอน ใจกลางกรุงโซล และอีกแห่งในพลาซ่าใกล้ศาลาว่าการเพื่อให้ผู้คนสามารถเยี่ยมชมเหยื่อได้
รัฐบาลเกาหลีได้ตัดสินใจที่จะจัดงานไว้ทุกข์ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคมถึง 5 พฤศจิกายน ตั้งแต่บ่ายของวันที่ 30 ตุลาคม ชาวโซลจำนวนมากมาวางดอกไม้ที่ทางออก 2 ของสถานีรถไฟใต้ดินอิแทวอน ในขณะเดียวกันทางการยังคงทำงานเพื่อเอาชนะผลที่ตามมา
นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้กล่าวว่ารัฐบาลจะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อป้องกันไม่ให้โศกนาฏกรรมที่คล้ายกันเกิดขึ้นในอนาคต
บรรดาผู้นำของประเทศต่างๆ ทั่วโลกยังคงแสดงความเสียใจต่อรัฐบาลเกาหลีและประชาชนสำหรับโศกนาฏกรรมที่สะเทือนใจครั้งนี้
โศกนาฏกรรมแตกตื่นเกิดขึ้นในคืนวันที่ 29 ตุลาคม เมื่อผู้คนราว 100,000 คนแห่กันไปที่ถนนในย่านอิแทวอนเพื่อเข้าร่วมในเทศกาลฮัลโลวีน ในคืนวันที่ 30 ต.ค. ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงถึง 154 ราย และผู้บาดเจ็บอีก 133 ราย
เป็นงานฮัลโลวีนครั้งแรกที่จัดขึ้นในกรุงโซลในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่เกาหลีใต้ยกเลิกข้อจำกัดเนื่องจากโควิด-19 เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นโศกนาฏกรรมที่เลวร้ายที่สุดของเกาหลีใต้นับตั้งแต่เรือเฟอร์รีเซวอลล่มในปี 2557 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 304 ราย ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนมัธยมปลาย
เจ้าหน้าที่กรุงโซลกล่าวว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้น โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 37 คน ผู้เสียชีวิต 97 เป็นผู้หญิง 95 คนอยู่ในวัย 20 ปี 32 คนอายุ 30 ปี 9 คนอายุ 40 ปีและ 4 คนเป็นวัยรุ่น จำนวนชาวต่างชาติที่เสียชีวิตคือ 26 คนจาก 14 ประเทศ รวมทั้งอิหร่าน (5 คน) จีนและรัสเซีย (4 คน) สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น (2 คน) ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย นอร์เวย์ ออสเตรีย ไทย คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน และศรีลังกา (คนละ 1 คน) สถานทูตเวียดนามในเกาหลีระบุว่ามีพลเมืองเวียดนาม 1 คน (เกิดในปี 2544) เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว