ไทยตั้งเป้ากลับเข้ากลุ่มสนามบิน 20 อันดับแรกของโลกภายใน 5 ปี
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมีแผนพัฒนาสนามบินไทยให้กลับมาติดอันดับ 20 สนามบินชั้นนำของโลกภายใน 5 ปีข้างหน้า
ผู้โดยสารที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิในกรุงเทพฯประเทศไทย (ภาพ: THX/TTXVN) |
ตามที่นักข่าวสำนักข่าวเวียดนามในกรุงเทพฯ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทยได้ประกาศ “วิสัยทัศน์ประเทศไทย” โดยมีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมประเทศให้กลายเป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาคภายในปี 2573 โดยสามารถรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศได้มากกว่า 150 ล้านคนต่อคน และเป็นหนึ่งในศูนย์กระจายสินค้าทางอากาศ 10 อันดับแรกของโลก
ในการกล่าวสุนทรพจน์ถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ NBT และบนโซเชียลมีเดีย นายกรัฐมนตรี เศรษฐา กล่าวว่า รัฐบาลมีแผนที่จะพัฒนาท่าอากาศยานไทยให้กลับสู่กลุ่มสนามบินที่ดี 20 อันดับแรกของโลกภายใน 5 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะ 6.สนามบินปัจจุบันอยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (ทอท.) ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ แม่ฟ้าหลวง-เชียงราย ภูเก็ต และหาดใหญ่
แผนนี้รวมถึงการปรับปรุงและขยายสนามบินที่มีอยู่ และการก่อสร้างสนามบินใหม่เพื่อเพิ่มความสามารถในการรองรับผู้โดยสารและการรับสินค้า นอกจากนี้ รัฐบาลยังวางแผนที่จะสร้างห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ใกล้สนามบินเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เชื่อมต่อสนามบินกับระบบขนส่งสาธารณะ (รถราง รฟท.-สายสีแดง) เพื่อให้ผู้โดยสารเข้าเมืองได้เร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี เศรษฐา กล่าวว่า รัฐบาลจะยกระดับสนามบินทั่วประเทศด้วยการบูรณาการนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการให้บริการผู้โดยสาร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความสะดวก และรวดเร็วในการให้บริการ
นอกจากนี้ จะพยายามยกระดับอาหารไทยสู่มาตรฐานสากลด้วยการจัดหาอาหารให้กับสายการบินต่างๆ ส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์การเกษตรไทยคุณภาพสูง บูรณาการนวัตกรรมใหม่ๆ ในกระบวนการผลิตอาหาร และยกระดับอาหารประจำชาติไทย อาหารบนเรือทั่วโลก
รัฐบาลไทยจะพยายามกระชับความร่วมมือกับสายการบิน หน่วยงานการท่องเที่ยว และสมาคมโรงแรมหลายแห่ง เพื่อร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของไทย ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงตารางเที่ยวบิน หมายเลขและประเภทเครื่องบิน ตั๋วและบริการผู้โดยสาร ขณะเดียวกันก็ทำให้มั่นใจว่ามีพนักงานที่มีความสามารถเพียงพอที่จะให้บริการได้อย่างราบรื่น
นายกรัฐมนตรี เศรษฐา กล่าวว่า ความยั่งยืนจะได้รับการส่งเสริมผ่านการใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) และการสนับสนุนการผลิตในประเทศ ตลอดจนการสนับสนุนบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผู้นำไทยสรุปว่าความพยายามดังกล่าวไม่เพียงแต่สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังปรับปรุงคุณภาพชีวิตและสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับประชาชน ซึ่งจะเป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตสำหรับเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของประเทศไทย
“มือสมัครเล่นเก็บตัว ผู้บุกเบิกวัฒนธรรมป๊อป แฟนเบคอนที่รักษาไม่หาย”