ในสหราชอาณาจักร นักเรียนจำนวนมากขึ้นรายงานว่ามีปัญหาสุขภาพจิต (ภาพ: สกายนิวส์)
ในช่วงหกปีที่ผ่านมา สัดส่วนของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรที่รายงานปัญหาสุขภาพจิตเพิ่มขึ้นจาก 6% เป็น 16% การเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่นี้เกิดขึ้นในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากวิกฤตค่าครองชีพของสหราชอาณาจักรทวีความรุนแรงมากขึ้น
การวิเคราะห์โดย Policy Institute ที่ King’s College London และ Centre for Transforming Access and Outcomes for Students in Higher Education (TASO) แสดงให้เห็นว่าสุขภาพจิตที่ไม่ดีเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดที่ทำให้นักเรียนต้องการออกจากโรงเรียน
ในบรรดาผู้ที่พิจารณาลาออกจากโรงเรียน สัดส่วนที่อ้างถึงปัญหาทางการเงินเป็นเหตุผลหลักเพิ่มขึ้นจาก 3.5% เป็น 8% ระหว่างปี 2022 ถึง 2023
ดร.โอมาร์ ข่าน ซีอีโอ TASO กล่าวว่ารายงานดังกล่าวเน้นย้ำถึง “ปัญหาสุขภาพจิตที่นักศึกษาเผชิญอยู่อย่างต่อเนื่องและแพร่หลาย เรากำลังทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยในภาคการศึกษาเพื่อทำความเข้าใจให้ดีขึ้นว่าอะไรสามารถปรับปรุงสุขภาพจิตของนักเรียนทุกคนได้”
แม้ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และวิกฤตค่าครองชีพจะทำให้ปัญหารุนแรงขึ้น นายโอมาร์ ข่าน กล่าวว่า แนวโน้มขาขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ นักวิจัยกล่าวว่าปัญหาสุขภาพจิตที่เพิ่มขึ้นเกิดขึ้นก่อนอัตราเงินเฟ้อที่สูงและการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยบ่งชี้ว่าปัจจัยอื่นๆ กำลังเกิดขึ้น
รายงานนี้อ้างอิงจากนักศึกษาเต็มเวลา 82,682 คนในช่วงระยะเวลา 7 ปี และแสดงให้เห็นว่าบางกลุ่มได้รับผลกระทบมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ในบรรดาผู้ตอบแบบสอบถามที่ไม่ใช่ไบนารี่ 42% รายงานว่าประสบปัญหาสุขภาพจิตไม่ดี พร้อมด้วย 30% เป็นคนข้ามเพศ
คนที่เป็นไบเซ็กชวลมีปัญหาสุขภาพจิตโดยเฉลี่ยสูงสุดในกลุ่ม LGBT+ ที่ 28%
เกย์มีอัตราต่ำสุด (14%) แต่ก็ยังสูงกว่าอัตราที่พบในกลุ่มรักต่างเพศ (7%)
ในขณะเดียวกัน นักเรียนผิวขาว (12%) มีสุขภาพจิตโดยเฉลี่ยแย่กว่าเพื่อนเชื้อชาติอื่น แต่นักเรียนที่มีภูมิหลังทางชาติพันธุ์ ‘ผสม’ (12%) ก็มีแนวโน้มที่จะประสบปัญหาสุขภาพจิตเช่นกัน
* ขอเชิญชวนผู้อ่านติดตามรายการที่ออกอากาศโดย Vietnam Television ทาง TV Online และ วีทีวีโก!