17 กรกฎาคม หนังสือพิมพ์ บางกอกโพสต์ อ้างแหล่งข่าว หากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวหน้า (มปท.) ยังคงแพ้ในการลงคะแนนรอบสองในวันที่ 19 กรกฎาคม พรรคเพื่อไทยก็มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ในประเทศไทย
ในการประชุมวันนี้ พรรค MFP จะต้องโน้มน้าวพรรคที่เหลือในรัฐบาลผสมว่านายปิตาจะได้รับการสนับสนุนอย่างเพียงพอในการลงคะแนนเสียงรอบต่อไป
นอกจากนี้ การประชุมวันนี้ยังจะหารือถึงการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เพื่อจำกัดอำนาจวุฒิสภา
พรรคเพื่อไทยของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ได้อันดับสอง รองจากพรรค MFP ในการลงคะแนนเสียงของสภาผู้แทนราษฎรไทยในเดือนพฤษภาคม 2566 หลังจากนั้น พรรค MFP พรรคเพื่อไทย และอีก 6 พรรคได้จัดตั้งรัฐบาลผสมเพื่อยึด ที่นั่งส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎร
อย่างไรก็ตาม ในการลงคะแนนเสียงเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม นายปิตาไม่ได้รับคะแนนเสียงเพียงพอในสภาแห่งชาติ ซึ่งรวมถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 500 คน และสมาชิกวุฒิสภา 249 คน
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายปิตายังประกาศด้วยว่าเขาจะลงจากตำแหน่งหากล้มเหลวในรอบที่สอง เพื่อหลีกทางให้พรรคเพื่อไทยเป็นหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล
ตั้งแต่ผลการเลือกตั้งรอบแรกก็มีการคาดเดากันไปต่างๆ นานาว่า พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อผู้สมัครที่แข็งแกร่งจากพรรคของเขาสำหรับรอบต่อไป โดยเฉพาะ เศรษฐา ทวีสิน เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์
นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคจะเสนอชื่อผู้สมัครก็ต่อเมื่อสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนเห็นด้วยเท่านั้น
จนถึงปัจจุบัน ธุรกิจไทยได้แสดงการสนับสนุนพรรคเพื่อไทย หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายเศรษฐกิจของพรรค
“พรรคเพื่อไทยมีประสบการณ์ในการบริหารประเทศด้วยนโยบายต่างๆ ที่ทำสำเร็จ พรรคยังมีบุคลากรที่มีความสามารถและเชี่ยวชาญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าว บางกอกโพสต์.
นายเศรษฐาเคยสัญญาว่าพรรคเพื่อไทยจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่กระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชนหลังได้เป็นรัฐบาล
ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยยังได้ให้คำมั่นสัญญา เช่น มอบ “สกุลเงินดิจิทัล” มูลค่า 10,000 บาท ให้กับประชาชนทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในชุมชนท้องถิ่น