เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน รองโฆษกรัฐบาล ทิพานันท์ ศิริชนะ อ้างรายงานของกรมความร่วมมือภาพยนตร์ระหว่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งประเทศไทย ดังกล่าวข้างต้น
ด้วยการสนับสนุนของรัฐบาลที่ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้สร้างภาพยนตร์นานาชาติ ประเทศนี้สามารถดึงดูดทีมงานภาพยนตร์จากทั่วโลกได้ ช่วยส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สร้างงานและรายได้ให้กับผู้คน ตลอดจนการพัฒนาเศรษฐกิจ .
คุณทิพานันท์อ้างว่าความสำเร็จนี้เกิดจากรัฐบาลไทยที่ดำเนินนโยบายส่งเสริมและดึงดูดทีมงานภาพยนตร์ต่างประเทศมาหลายปี
ตั้งแต่ปี 2559 มีภาพยนตร์ต่างประเทศเข้าฉายในประเทศประมาณ 740 เรื่อง สร้างรายได้ 4.86 พันล้านบาท
คุณทิพานันท์กล่าวเสริมว่าแม้ในช่วงที่โควิด-19 ระบาด ภาพยนตร์ 121 เรื่องก็ยังถ่ายทำในประเทศ
ตามนโยบายดึงดูดผู้สร้างภาพยนตร์ต่างประเทศ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ รัฐบาลไทยได้อนุมัติข้อเสนอในการเพิ่มค่าตอบแทนสำหรับผู้ผลิตภาพยนตร์ที่ใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำจาก 15% – 20% เป็น 20% – 30% ใน 2 ปี
นอกจากนี้ยังได้ปรับเพิ่มเพดานการคืนเงินต่อฟิล์มเป็น 150 ล้านบาท จาก 75 ล้านบาทก่อนหน้านี้
นางสาวทิพานันท์ ชี้ว่า มาตรการของรัฐบาลในการส่งเสริมและดึงดูดทีมงานภาพยนตร์ต่างประเทศมายังประเทศไทย ไม่เพียงแต่ช่วยนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศสู่สายตาชาวโลกเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการท่องเที่ยว เพิ่มศักยภาพและทักษะของคนไทยในภาพยนตร์อีกด้วย อุตสาหกรรม. เมื่อได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์วิชาชีพกับผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ
นอกจากนี้ รองโฆษกรัฐบาลไทยยังยืนยันว่าการที่ทีมงานภาพยนตร์ต่างประเทศเข้ามาสร้างภาพยนตร์ในประเทศนี้จะมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ กระจายรายได้สู่เมืองแห่งบทบัญญัติที่สาม สร้างงานให้คนไทยมากขึ้น เพิ่มมูลค่าการใช้จ่ายภายในประเทศเป็นการสร้างรายได้โดยตรงให้กับคนในท้องถิ่นและชุมชน