มุมมองของกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย รูปถ่าย: scmp.com
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม รัฐบาลไทยได้อนุมัติข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทยในการอนุญาตให้ชาวต่างชาติถือครองที่ดินไม่เกินหนึ่งไร่ (ประมาณ 0.16 เฮกตาร์) เพื่อวัตถุประสงค์ในการเคหะในประเทศ
โฆษกรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี กล่าวว่า ในหลักการ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบร่างของกระทรวงมหาดไทย เรื่อง สิทธิการถือครองที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติใน 4 กลุ่มวิชา ประกอบด้วย “ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีคุณสมบัติเหมาะสม” “ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศไทย”, “พลเมืองที่ร่ำรวยของ โลกและ ‘ผู้รับบำนาญผู้มั่งคั่ง’
ข้อเสนอดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในนโยบายทางกฎหมายที่มีมาอย่างยาวนานของประเทศไทย ซึ่งห้ามชาวต่างชาติไม่ให้ถือครองที่ดิน ยกเว้นในกรณีเช่น การซื้อคอนโดมิเนียมหรือแต่งงานกับชาวต่างชาติกับคนไทย
โฆษกรัฐบาลไทยกล่าวว่ากฎระเบียบใหม่นี้สอดคล้องกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและแผนการลงทุนของรัฐบาลที่มุ่งดึงดูดผู้ประกอบอาชีพที่ร่ำรวยและชาวต่างชาติมายังประเทศไทย
จะช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจไทย รัฐบาลไทยหวังว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า จะดึงดูดชาวต่างชาติที่มั่งคั่งกว่าล้านคนให้มาอาศัยในประเทศไทย และ “อัดฉีด” เงินกว่า 1 ล้านล้านบาท (มากกว่า 26 พันล้านดอลลาร์) เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจด้วยเงิน 8 แสนล้านดอลลาร์ บาทผ่านกิจกรรมการลงทุนและ 270 พันล้านบาทผ่านรายได้จากงบประมาณ
จากข้อมูลของอนุชา ที่ดินของต่างชาติที่เสนอตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ พัทยา เมืองที่มีการจัดการจากส่วนกลาง และพื้นที่ที่อยู่อาศัยตามกฎหมายว่าด้วยการวางแผนการใช้ที่ดิน
ชาวต่างชาติมีสิทธิ์ซื้อที่ดินได้ก็ต่อเมื่อพวกเขาลงทุนอย่างน้อย 40 ล้านบาท (มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์) ในอสังหาริมทรัพย์ หลักทรัพย์ หรือกองทุนรวมเพื่อการลงทุนของไทย หากผู้เข้าร่วมถอนเงินลงทุนก่อนเวลาที่กำหนด กรรมสิทธิ์ในที่ดินจะถูกเพิกถอน
กฎระเบียบใหม่จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษาและจะได้รับการตรวจสอบหลังจากดำเนินการ 5 ปี
อย่างไรก็ตาม บางคนโต้แย้งว่ากฎระเบียบใหม่อาจนำไปสู่การเก็งกำไรที่ดินโดยชาวต่างชาติ นายธนิต โสรัชต์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมและพาณิชยศาสตร์แห่งประเทศไทย แสดงความไม่เห็นด้วยต่อการตัดสินใจของคณะรัฐมนตรี เนื่องจากอาจนำไปสู่การเก็งกำไรที่ดินและผลักดันราคาที่ดิน ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถซื้อที่ดินได้