ประเทศไทยมีแผนขยายเทศกาลเล่นน้ำสงกรานต์ออกไปอีกเดือนหนึ่ง ยกระดับงานสู่ระดับนานาชาติ และวางประเทศติดอันดับ 10 สถานที่จัดเทศกาลน้ำที่ดีที่สุดในโลก
นางสาวแพทองธาร ชิวัตร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พลังงานอ่อนแห่งชาติ (สช.) กล่าวเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมว่า สทช. เห็นชอบให้ส่งเสริมให้สงกรานต์กลายเป็นหนึ่งในเทศกาลที่มีเอกลักษณ์มากที่สุดในโลก กสมท.มีแผนจัดสงกรานต์สาดน้ำฉลองปีใหม่ตลอดทั้งเดือน แทนประเพณี 3 วัน
“มาทำให้เทศกาลสงกรานต์เป็นงานที่ผู้คนต้องเดินทางมาประเทศไทยเพื่อเข้าร่วม และประเทศไทยเป็นหนึ่งใน 10 สถานที่จัดงานเทศกาลที่ดีที่สุดในโลก” เธอกล่าว
ก่อนหน้านี้ NSPSC ตัดสินใจใช้เงินมากกว่า 5 พันล้านบาท (เกือบ 143 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เพื่อส่งเสริม soft power ของประเทศไทยใน 11 ด้าน ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศต่อไป และสร้างรายได้ให้กับการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องมากขึ้น ส่งผลให้พื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับการจัดสรรงบประมาณมากที่สุดได้แก่ กิจกรรมเทศกาล (หนึ่งพันล้านบาท – เกือบ 29 ล้านเหรียญสหรัฐ) อาหาร (หนึ่งพันล้านบาท) และการท่องเที่ยว (711 ล้านบาท – มากกว่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐ)
คาดว่า กสม. จะส่งข้อเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติในเดือนหน้า คณะกรรมการจะระดมเงินกว่า 5 พันล้านบาทจากกองทุนกลางเพื่อปฏิบัติการฉุกเฉินแห่งชาติ แทนงบประมาณการคลังปี 2567 ที่ยังไม่ได้รับอนุมัติจากรัฐสภา ในหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอ นางสาวแพทองธาร กล่าวเพิ่มเติมว่าคณะกรรมการคาดว่าเทศกาลอันยาวนานนี้จะสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจไทยถึง 35,000 ล้านบาท (มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์)
นางสาวชฎาทิพ จูตระกูล ผู้อำนวยการกลุ่มสยามพิวรรธน์ และประธานคณะอนุกรรมการเทศกาล กล่าวว่า พวกเขาวางแผนที่จะจัดงานมากกว่า 10,000 งานทั่วประเทศตลอดปี 2567 โดยเฉพาะเทศกาลปีใหม่สงกรานต์ที่จัดขึ้นบนถนนราชดำเนินและสถานที่อื่นๆ ในย่านเมืองเก่าของกรุงเทพฯ . นอกจากนี้จังหวัดจะจัดเทศกาลน้ำเพื่อส่งเสริมประเพณีของตนเอง
อย่างไรก็ตาม การขยายระยะเวลาการเฉลิมฉลองเทศกาลน้ำก็ทำให้เกิดความขัดแย้งเช่นกัน ณัฐวุฒิ เผ่าทวี ศาสตราจารย์เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง ประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า 3 วันเป็นช่วงที่เหมาะสมของวันสงกรานต์ การขยายกิจกรรมเทศกาลออกไปตลอดทั้งเดือนอาจทำให้ผู้คนรู้สึก “เบื่อ” และ “ลดมูลค่าลง”
วันคานห์ (ตาม บางกอกโพสต์)