นายกรัฐมนตรี เศรษฐา กล่าวว่า ประเทศไทยไม่มีแผนที่จะเชิญตำรวจจีนมาลาดตระเวนสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม หลังจากที่แนวคิดดังกล่าวถูกโจมตี
หัวหน้าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายฐปนี เกียรติไพบูลย์ หยิบยกแนวคิดให้ตำรวจไทยและจีนร่วมลาดตระเวนในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ข้อเสนอนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณชนและรัฐบาล
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธแนวคิดดังกล่าวเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน “ประเทศไทยเพียงต้องการร่วมมือกับตำรวจจีนโดยการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่ายอาชญากรที่อาจปฏิบัติการในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน จะไม่มีกองกำลังตำรวจจีนประจำการในประเทศไทย” นายทวีสิน
นายเศรษฐาอธิบายว่าความขัดแย้งเกิดขึ้นเนื่องจาก “ข้อผิดพลาดในกระบวนการสื่อสาร” นายสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว ได้กล่าวถึงมุมมองของนายกรัฐมนตรี
“มีมาตรการหลายอย่างที่ส่งเสริมความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวในประเทศไทย แต่เราจะไม่จัดให้มีการลาดตระเวนร่วม” นางสุดาวันกล่าว “ตำรวจไทยมีบุคลากรเพียงพอและกำลังดำเนินการเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว”
ประเทศไทยกำลังพยายามดึงดูดนักท่องเที่ยวในบริบทที่ชาวจีนลังเลที่จะมาประเทศนี้ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย นักท่องเที่ยวชาวจีนคิดเป็น 11 ล้านคนจากนักท่องเที่ยว 39.9 ล้านคนที่ประเทศไทยบันทึกไว้ในปี 2562 ก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาเยือนประเทศไทยในปีนี้สูงถึง 2.8 ล้านคน แต่ต่ำกว่าเป้าหมายของรัฐบาลอย่างมากที่ 4 ถึง 4.4 ล้านคน
ดยุคตรัง (ตาม บางกอกโพสต์, รอยเตอร์)