นัดล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย เจ้าบ้านมีเรตติ้งต่ำกว่ามาก ไทย (อันดับ 27 ของโลก) ตามหลังอิหร่าน ทีมอันดับ 7 ของโลกมาก
ขณะที่อิหร่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศระดับเอเชีย 14 ครั้ง คว้าชัย 12 ครั้งในปี 1999, 2000, 2001, 2002, 2003, 2004, 2005, 2007, 2008, 2010, 2016 และ 2018 ไทยทำได้เพียง 3 ครั้งเท่านั้นที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ แพ้ 2 ครั้ง . ของเหล่านั้น
ความแตกต่างในระดับจะสะท้อนให้เห็นอย่างรวดเร็วในสถานการณ์ภาคพื้นดิน อิหร่านครองได้ 2 ประตูในครึ่งแรกด้วยการผสมผสานความเร็วสูงมาก
ครึ่งหลังไทยสร้างโอกาสกลับมาพร้อมกับตีเสมอของกัปตันทีม จิรวัฒน์ ศรวิเชียร นาทีที่ 26 ส่งบอลเข้ามุมบนแล้วทำประตูตัดขึ้นนำเป็น 1-2
แต่อิหร่านมีกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก ใช้เวลาไม่นานก็เจอเน็ตไทยเป็นครั้งที่ 3
เพียง 1 นาทีหลังประตูของ ศรวิเชียร หัษฎเดห์ ยิงบอลเข้ามุมล่างตาข่ายไทย
นาทีที่ 35 อิหร่าน จบความหวังทีมไทยด้วยประตูชัยเป็น 4-1 ผู้รักษาประตู Bakher ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ความได้เปรียบเชิงตัวเลขของคู่ต่อสู้เพื่อทำประตูเข้าประตูที่ว่างเปล่าโดยตรง
สุดท้ายอิหร่านก็ชนะไปแบบสบายๆด้วยสกอร์ 4-1 คว้าแชมป์เอเชียสมัยที่ 13 ในประวัติศาสตร์ ในรอบชิงชนะเลิศ 17 นัด พวกเขาชนะ 13 ครั้ง
ประเทศไทยพลาดการเสนอชื่อชิงบัลลังก์ภาคพื้นทวีปอีกครั้ง เข้ารอบชิงชนะเลิศเอเชีย 3 ครั้ง ล้มเหลวทั้ง 3 ครั้ง แต่ด้วยสกอร์ 1-4 ถือเป็นคะแนนที่น่ายกย่องของไทยด้วยเพราะก่อนหน้านั้นแพ้ 0-4 และ 1-6 ในรอบชิงชนะเลิศ
“มือสมัครเล่นเบคอน ผู้ฝึกดนตรี เก็บตัว ขี้ยาเบียร์ ผู้คลั่งไคล้วัฒนธรรมป๊อป กูรูอินเทอร์เน็ตตัวยง”