โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริโภคเชื่อว่าสุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากโภชนาการที่ดี ดังนั้น ควรเปลี่ยนประเภทโปรตีนที่บริโภค ดังนั้นเนื้อสัตว์ที่มีคอเลสเตอรอลสูงจึงไม่ใช่ตัวเลือกแรกอีกต่อไป
ผู้บริโภคกำลังลดการบริโภคเนื้อหมู
สถิติเดือนตุลาคม 2565 การบริโภคเนื้อหมูอยู่ที่ 24.5 กก./คน ต่ำกว่าปี 2561 ที่ 31.4 กก.
จากข้อมูลของ Ipsos การผลิตสุกรในปี 2565 จะได้รับผลกระทบอย่างมากจากการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ในเวลาเพียงห้าเดือน ภายในกลางปี 2565 ฝูงแม่สุกรทั้งหมดทั่วประเทศขาดดุลเกือบ 200,000 ตัว
นอกจากนี้ต้นทุนปศุสัตว์ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์การละทิ้งหรือระงับการผลิตปศุสัตว์ในภาคครัวเรือนเป็นเรื่องปกติ
อย่างไรก็ตาม ในปี 2566 คาดว่าโรคจะเย็นลงจะช่วยฟื้นฟูตลาดการเลี้ยงสุกร การเปลี่ยนจากฟาร์มของครอบครัวเป็นฟาร์มของบริษัทด้วยการขยายรูปแบบฟาร์มแปรรูปที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้อุปทานสุกรในตลาดมีเสถียรภาพ
ดังนั้นแม้คาดว่าการบริโภคเนื้อสุกรจะไม่ฟื้นตัวเหมือนปี 2561 แต่ก็ยังมีแนวโน้มเติบโต สิ่งนี้ช่วยส่งเสริมการพัฒนาการเลี้ยงสุกรในประเทศ
จากข้อมูลของ Ipsos ในช่วงปี 2566-2568 การผลิตสุกรจะยังคงเพิ่มขึ้น 3 ถึง 5% ต่อปี
การนำเข้าเนื้อไก่เพิ่มขึ้นแม้ว่าอุปทานในประเทศจะมีมากก็ตาม
ในการพัฒนาอื่น ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการบริโภคไก่มากขึ้น ในปี 2564 ปริมาณไก่ที่บริโภคอยู่ที่ 17.8 กก./ตัว ในปี 2565 จะเพิ่มเป็น 18.3 กก.
การบริโภคไก่คาดว่าจะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ในความเป็นจริงมันยากที่จะเพิ่มขึ้นในทันที
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เนื่องจากเวียดนามได้ลงนามในข้อตกลงการค้าเสรี เนื้อสัตว์ที่นำเข้ามาในเวียดนามจึงถูกตัดภาษีโดยสิ้นเชิง นำไปสู่การแข่งขันที่รุนแรงเมื่อราคาไก่นำเข้ายังคงต่ำ
ในปี 2565 เพียงปีเดียว มูลค่าของเนื้อไก่ขาวนำเข้าสูงถึง 237 ล้านดอลลาร์ โดยมีเนื้อประมาณ 178,000 ตัน แม้ว่าอุปทานในประเทศจะล้นตลาดอยู่แล้วก็ตาม ในทางกลับกัน เวียดนามส่งออกเพียง 1,000 ตัน มูลค่ารวม 2.2 ล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ในการเลี้ยงไก่ ราคาโรงฆ่าสัตว์ผันผวนในระดับต่ำ…
จะเห็นได้ว่าการเลี้ยงไก่และสุกรในเวียดนามต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ธุรกิจจำเป็นต้องหาวิธีที่จะดึงดูดรสนิยมและรักษาผู้บริโภคไว้ ปัจจุบัน “แบรนด์เนื้อ” กำลังเป็นทิศทางธุรกิจใหม่ที่มีอัตราการเติบโตปีละ 10%-15%
ตามที่ปล