ก่อนหน้านี้มีผู้สังเกตการณ์น้อยมากที่เชื่อว่ามหาเศรษฐีพิต้า ลิ้มเจริญรัต มีความสามารถในการเป็นนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม ผลการโหวตของคนไทยซึ่งนับคะแนนมากที่สุดเมื่อวันที่ 15 พ.ค. กลับแสดงสถานการณ์ที่แตกต่างออกไป
มหาเศรษฐี พิต้า ลิ้มเจริญรัต วัย 42 ปี – ภาพ: REUTERS
ตาม บลูมเบิร์ก และ ข่าวเอบีซีผู้นำพรรค Moving Forward Party (MFP) อายุ 42 ปี สำเร็จการศึกษาในนิวซีแลนด์และสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ American University of Harvard อันโด่งดังด้วยทุนระหว่างประเทศ ก่อนที่จะกลายมาเป็นคนที่มีพื้นฐานธุรกิจ
ตามประกาศล่าสุดของกกต.เมื่อบ่ายวันที่ 15 พ.ค. ระบุว่าพรรค MFP คว้าชัยที่ 1 ในการเลือกตั้งทั่วไปด้วยคะแนนเสียงในสภาผู้แทนราษฎรได้ทั้งหมด 151 ที่นั่ง สิ่งที่น่าทึ่งยิ่งกว่าคือ MFP เป็นเพียง “ผู้มาใหม่” เมื่อเปรียบเทียบกับพรรคทหารผ่านศึกอื่นๆ
นายพิต้า ลิ้มเจริญรัต รายล้อมไปด้วยผู้สนับสนุนเมื่อวันที่ 14 พ.ค. – ภาพ: REUTERS
เมื่อนายปิตาอายุ 25 ปี พ่อของเขาเสียชีวิต เขากลับไปที่บ้านเกิดและบริหารบริษัท Agrifood ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันรำข้าวที่กำลังจมอยู่กับหนี้สินของครอบครัว และพลิกสถานการณ์อย่างรวดเร็ว
ต่อมานักธุรกิจหนุ่มรายนี้ได้เป็นผู้อำนวยการฝ่ายบริการเรียกรถโดยสารและบริการส่งของระดับภูมิภาคของประเทศไทยในเวลาต่อมา
เมื่อปี 2555 นายปิตา แต่งงานกับนักแสดงและนางแบบ ชุติมา ทีปนารถ แต่การแต่งงานพังลงในปี 2562 ก่อนแยกทางกันพวกเขามีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ซึ่งปีนี้อายุครบ 7 ขวบในปีนี้
นักธุรกิจหนุ่มย้ายจากโลกธุรกิจมาสู่การเมืองและเริ่มมีบทบาทในพรรค MFP ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคโดยพบว่าละเมิดกฎการจัดหาเงินทุนหลายข้อและสั่งห้ามพรรค ในวงการการเมืองมาเป็นเวลา 10 ปี รวมถึงธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คนก่อนด้วย
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงหนึ่งปีหลังจากที่พรรคได้รับคะแนนเสียงมากกว่า 6 ล้านเสียงและ 81 ที่นั่งในการเลือกตั้งปี 2562 กลายเป็นพรรคที่ใหญ่เป็นอันดับสามในรัฐสภาของไทย
นายปิตาจึงเข้ายึดอำนาจและสร้างพรรค MFP ขึ้นใหม่
ครอบครัวของผู้นำ MFP ไม่ใช่คนแปลกหน้าในการเมือง นายพิต้าเป็นหลานชายของนายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ช่วยใกล้ชิดของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ในขณะที่พ่อของเขาเป็นที่ปรึกษากระทรวงเกษตร
นายพิตา ลิ้มเจริญรัต ลงคะแนนเสียงที่สำนักงานการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค. – ภาพ: REUTERS
ใครคือมหาเศรษฐีหนุ่มที่ทำให้การเมืองไทยช็อค?