รัฐบาลไทยจะยกเลิกข้อเสนอก่อนหน้านี้ในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการเดินทาง 300 บาท (ประมาณ 207,000 ดอง) สำหรับผู้มาเยือนจากต่างประเทศที่เดินทางมาถึงประเทศไทยทางอากาศแต่ละราย ข้อเสนอนี้ถูกเสนอโดยรัฐบาลชุดก่อนในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 แต่ถูกเลื่อนออกไปเป็นเวลานานและไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากการต่อต้านอย่างรุนแรงจากภาคเอกชน ตามรายงานของ Straits Times
การตัดสินใจของรัฐบาลไทยดังกล่าวคาดว่าจะสร้างเงื่อนไขให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศที่ยั่งยืน ตามที่นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทยกล่าวไว้ การเก็บภาษีการท่องเที่ยวสามารถสร้างรายได้ได้มากขึ้น แต่เมื่อมองให้กว้างขึ้น แหล่งที่มาของรายได้นี้ไม่จำเป็นต้องเท่ากับจำนวนเงินที่เก็บมาจากการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยว หากพวกเขาไม่ต้องเสียภาษี เหนือต้นทุน
ในมุมมองของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา กำลังซื้อของนักท่องเที่ยวเป็นปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับประเทศมากขึ้น นายกรัฐมนตรีเศรษฐาเน้นย้ำว่าการตัดสินใจทุกครั้งจะต้องขึ้นอยู่กับเสียงของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด และรัฐบาลของเขาสามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมจากแหล่งภาษีอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้หากจำเป็น
เมื่อถามถึงการตกอันดับ 6 ของประเทศไทย สู่ 47/119 ประเทศในดัชนีการพัฒนาการเดินทางและการท่องเที่ยวโดย World Economic Forum (WEF) นายกรัฐมนตรี เศรษฐา กล่าวว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันจะพัฒนาในทุกด้าน และเช่นเดียวกับรัฐบาลชุดก่อนๆ ระบุว่าการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมหลักที่สำคัญในการช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศเสมอ
ก่อนหน้านี้ สภาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (TCT) เสนอแนะให้รัฐบาลพิจารณาเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยว 300 บาท เพื่อช่วยสนับสนุนการพัฒนาการท่องเที่ยว โดยขณะนี้แผนและการเตรียมการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์แล้ว องค์กรเชื่อว่าเงินทุนที่จำเป็นจะถูกนำมาใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในจังหวัดชั้นสองเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกันก็ปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวที่เสื่อมโทรมเนื่องจากนักท่องเที่ยวหนาแน่นเกินไป อย่างไรก็ตาม หน่วยงานการท่องเที่ยวกล่าวว่าไม่ควรเรียกเก็บภาษีในขณะนี้ เนื่องจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยเพิ่งฟื้นตัวจากผลกระทบของการแพร่ระบาด และเป้าหมายเร่งด่วนคือการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนรวมถึงโควต้าการใช้จ่าย
จากรายงานของบางกอกโพสต์ การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักและเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทย อีกทั้งยังเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างแหล่งงานขนาดใหญ่อีกด้วย รัฐบาลไทยจึงมีความสนใจเป็นพิเศษในการวางแผนและดำเนินนโยบายเพื่อฟื้นฟูและพัฒนาอุตสาหกรรม โดยเฉพาะหลังผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตามสถิติ ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ 15 ล้านคน และตั้งเป้าที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35 ล้านคนในปีนี้ ด้วยมูลค่าการซื้อขายประมาณ 3 หมื่นล้านดอลลาร์
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของประเทศไทยเน้นย้ำว่าความสำเร็จของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศในช่วงที่ผ่านมาเกิดจากการค้นคว้าและดำเนินการตามนโยบายการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบและทันท่วงทีตลอดจนการลงทุนที่สามารถเข้าถึง 3 ล้านบาท (USD) กว่า 93 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิดการอุทธรณ์อย่างแข็งแกร่งของ “อุตสาหกรรมปลอดบุหรี่” ของไทยก็คือ “พลังอ่อน” ที่รัฐบาลชุดนี้ใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศไทยส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านอาหาร ภาพยนตร์ แฟชั่น งานเทศกาล และศิลปะการต่อสู้
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายฐาปนี เกียรติไพบูลย์ กล่าวเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนว่า ส่วนที่สามของ ดอกบัวขาวซีรีส์ดราม่ายอดฮิตของ HBO กำลังถ่ายทำในกรุงเทพ ภูเก็ต และเกาะสมุย รวมถึงภาพยนตร์ฮอลลีวูดบล็อกบัสเตอร์ โลกไดโนเสาร์ ส่วนที่ 4 (จูราสสิคเวิลด์ 4) คาดว่าจะเริ่มถ่ายทำในสัปดาห์หน้าในจังหวัดกระบี่และตรังของประเทศไทย ขั้นตอนการลงทะเบียน โลกไดโนเสาร์ ส่วนที่สี่ในประเทศไทยคาดว่าจะสร้างรายได้มากกว่า 650 ล้านบาท (เกือบ 18 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในช่วงเดือนที่ถ่ายทำ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยังกล่าวอีกว่าประเทศกำลังส่งเสริม “การท่องเที่ยวผี” ให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สนใจสถานที่แนวสยองขวัญ นายศิริภากร เชี่ยวสมุทร รองประธานททท. ประจำยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา กล่าวว่า ภาพยนตร์ผีไทยเป็นทรัพย์สินที่มีพลังอ่อนของประเทศ และภาพยนตร์ผีไทยได้ช่วยเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของดินแดนวัดทอง ทั้งโลก. นายศิริภากรยังกล่าวอีกว่า ททท. ยังไม่ได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มนี้อย่างเป็นทางการ แม้ว่าจะมีทำเลที่มีศักยภาพหลายแห่งในประเทศก็ตาม
ด้วยการใช้ศักยภาพอย่างเต็มที่ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ททท. ยังร่วมมือกับเครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ของฝรั่งเศส คาร์ฟูร์ เพื่อเปิดตัวแพ็คเกจท่องเที่ยวในประเทศไทยในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2024 ตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคมถึง 11 สิงหาคมที่ประเทศฝรั่งเศส ด้วยสโลแกน “Olympic Rest” แคมเปญนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสที่ประสงค์จะไปเที่ยวพักผ่อนเพื่อหลีกเลี่ยงฝูงชนในระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ททท. ได้เปิดตัวแพ็คเกจทัวร์ประมาณ 2,000 แพคเกจสำหรับนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญนี้ และกำลังประสานงานกับสายการบินเพื่ออำนวยความสะดวกเที่ยวบินตรงจากปารีสมายังประเทศไทย
รัฐบาลไทยเพิ่งเปิดตัวโครงการริเริ่ม “ครอบครัวเดียว – หนึ่งพลังซอฟท์” โดยหวังว่าจะสร้างโอกาสในการทำงาน 20 ล้านตำแหน่ง โดยได้รับค่าจ้างขั้นต่ำต่อปี 200,000 บาท (138 ล้านดองเวียดนาม)/คน โครงการนี้จะเริ่มอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายนปีหน้า และมุ่งเน้นไปที่การสอนทักษะวิชาชีพในภาคส่วนเฉพาะ เช่น อาหาร ภาพยนตร์และละคร ดนตรี กีฬา แฟชั่น เทศกาล หนังสือ เกมอิเล็กทรอนิกส์ การท่องเที่ยว และศิลปะ
นางสาวแพทองธาร ชิวัตร ประธานคณะกรรมการ Soft Power แห่งชาติของประเทศไทย กล่าวว่าโครงการ Soft Power เป็นส่วนหนึ่งของ “ยุทธศาสตร์ใหญ่” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งไม่เพียงช่วยเพิ่มรายได้ของประชาชน ขับเคลื่อนประเทศไทยจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง แต่ยังช่วยให้ประเทศไทยกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างยั่งยืน
“ผู้คลั่งไคล้อินเทอร์เน็ต เว็บนินจา ผู้บุกเบิกโซเชียลมีเดีย นักคิดที่อุทิศตน เพื่อนของสัตว์ทุกหนทุกแห่ง”