หนังสือพิมพ์ บางกอกโพสต์ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม มีการประกาศว่า นายวัชรเรศร วิวัชรวงศ์ พระราชโอรสองค์ที่ 2 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ์ ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประชาชนในการเสด็จกลับบ้านครั้งแรกหลังจากอยู่ในสหรัฐอเมริกามา 27 ปี
นายวัชเรศรเดินทางกลับประเทศไทยในเย็นวันที่ 6 ส.ค. และวางแผนจะอยู่ที่นั่นประมาณหนึ่งสัปดาห์
ที่นี่คุณวัชเรศรได้เยี่ยมชมสถานที่สำคัญทางจิตวิญญาณของคนไทยหลายแห่ง ตัวอย่างทั่วไปคือการเสด็จเยือนสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ณ วัดราชบพิธในเช้าวันที่ 7 สิงหาคม
วันที่ 10 สิงหาคม นายวัชเรศรยังได้เยี่ยมชมวัดยานนาวาซึ่งเป็นวัดสำคัญอีกแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
ทันทีที่ทราบว่านายวัชเรศรมาอยู่ที่วัด ชาวกรุงเทพก็รวมตัวกันจำนวนมากเพื่อต้อนรับพระราชโอรส การเยือนครั้งนี้ยังได้รับความสนใจจากสื่อทั้งไทยและต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 8 ส.ค. นายวัชเรศร ยังได้เยี่ยมชมและมอบของขวัญให้กับศูนย์เด็กด้อยโอกาสในกรุงเทพฯ ด้วย
สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า ความสนใจในการกลับบ้านโดยไม่คาดคิดของนายวัชรีศรปรากฏบนโซเชียลมีเดียเช่นกัน ติดแฮชแท็ก #SonOfTenReturnToThailand (แปล: พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว)
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเกี่ยวกับนายวิวัชรวงศ์ปรากฏในสื่อกระแสหลักของไทยในปริมาณเล็กน้อย หนังสือพิมพ์ออนไลน์รายใหญ่ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษไม่ได้รายงานการมาเยือนครั้งนี้
สื่อไทยยังไม่ได้ระบุเหตุผลในการกลับประเทศโดยไม่คาดคิดครั้งนี้
นายวัชรเรศร อายุ 42 ปี เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 2 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ์ และพระมเหสีคนที่สอง คือ นางสุจารินี วิวัชรวงศ์ หลังจากหย่ากับกษัตริย์แล้ว นางสุจารินีก็พาลูกๆ ของเธอไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อปักหลัก ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการอยู่ห่างจากบ้าน 27 ปีของคุณวัชรีศร
นายวัชเรศร สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขานิติศาสตร์ และปัจจุบันทำงานที่สำนักงานกฎหมายในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา บิดาของเขายังไม่ได้ตั้งพระองค์ให้เป็นเจ้าชาย
กลับมาบ้านเมื่อการเมืองไทยผันผวน
การเดินทางกลับของนายวัชเรศรเกิดขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงมากมายในการเมืองไทย
เจ้าหญิงพัชรกิติยาภา นเรนทิรา เทพยวดี น้องสาวของเขา ซึ่งมีข่าวลือว่าจะสืบราชบัลลังก์ต่อจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ์ ทรงประสบภาวะหลอดเลือดในสมองตีบในช่วงปลายปี 2565 และยังคงอยู่ในอาการโคม่ามาจนถึงทุกวันนี้
รัฐสภาของประเทศยังล้มเหลวในการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เมื่อนายพิตา ลิ้มเจริญรัต ผู้นำพรรคก้าวไปข้างหน้า (MFP) ถูกถอดถอนสถานะเป็นผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยเหตุนี้พรรคเพื่อไทยจึงได้รับสิทธิในการจัดตั้งรัฐบาลแม้ว่าจะได้อันดับที่สองในการเลือกตั้งกลางเดือนพฤษภาคมเท่านั้น
พรรคนี้ยังอยู่ในระหว่างการจัดตั้งแนวร่วมใหม่โดยไม่มีพรรค MFP ก่อนที่รัฐสภาไทยจะเลือกนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
“ผู้คลั่งไคล้อินเทอร์เน็ต เว็บนินจา ผู้บุกเบิกโซเชียลมีเดีย นักคิดที่อุทิศตน เพื่อนของสัตว์ทุกหนทุกแห่ง”