ก่อนพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ในเดือนพฤษภาคม มีการโต้เถียงและความไม่ลงรอยกันระหว่างเจ้าภาพกัมพูชาและไทย
เริ่มด้วยการต่อสู้รอบศิลปะป้องกันตัวคุนเขมรซึ่งชาวกัมพูชาเรียกว่าเป็นศิลปะการป้องกันตัวแบบดั้งเดิมของชาวเขมรในขณะที่ไทยยืนยันว่าเป็นมวยไทยซึ่งเป็นศิลปะการป้องกันตัวประจำชาติของคนไทยที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
ไทยเสนอที่จะคว่ำบาตรคุนเขมรหากกัมพูชาแข่งขันภายใต้ชื่อศิลปะการต่อสู้กัมพูชา แต่ไม่รู้จักว่าเป็นมวยไทย
|
สืบเนื่องมาจากที่ไทยตัดสินใจกลับมาใช้ชื่อมวยไทยแทนที่จะรับกัมพูชามาจัดศิลปะป้องกันตัวนี้ กลับใช้ชื่อ คุนเขมร ซึ่งตอนนี้ย้ายไปเป็นลิขสิทธิ์ซีเกมส์ราคาสูง รูปถ่าย: เก็ตตี้พิคเจอร์ส |
เรื่องราวข้างต้นยังไม่ได้รับการแก้ไขจนถึงตอนนี้ และกัมพูชากำลังพยายามระดมให้นานาชาติยอมรับศิลปะการป้องกันตัวของคุนเขมร แต่ก็เป็นข้อข้องใจของฝ่ายไทยที่กล่าวหาว่าเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ขายลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดให้กับ ซีเกมส์. 32 ในราคาที่สูงมาก
สื่อไทยตีข่าวทันทีว่ากัมพูชาขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดซีเกมส์ ครั้งที่ 32 เป็นเงินถึง 28 ล้านบาท หรือเท่ากับ 800,000 เหรียญสหรัฐ รางวัลที่สำนักงานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยต่อสื่อมวลชนไทยและพูด
ด้วยราคาที่สูงเกินไป กกท. จึงได้ขอความช่วยเหลือจากรองนายกรัฐมนตรี ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการโอลิมปิคไทยด้วย โดยเสนอเงินสนับสนุน
ฝ่ายไทยเชื่อว่าในประวัติศาสตร์ซีเกมส์ ประเทศเจ้าภาพหลายประเทศมีการถ่ายทอดสด “ฟรี ฟรี” หรือขายได้ไม่เกิน 10,000 เหรียญสหรัฐ ขณะที่กัมพูชาขอไทย 800,000 เหรียญสหรัฐ เป็นเรื่องที่ยากจะจินตนาการ
เมื่อเผชิญกับรายงานดังกล่าวจากประเทศไทย วัธ จำเริญ เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกกัมพูชาอธิบายว่า: “ราคาของลิขสิทธิ์โทรทัศน์ขึ้นอยู่กับแพ็คเกจต่างๆ ซึ่งแพ็คเกจที่ไทยซื้อนั้นเป็นแบบเลือกและต้องการอากาศบริสุทธิ์ด้วยซ้ำ …”
ตันพัค
“มือสมัครเล่นเบคอน ผู้ฝึกดนตรี เก็บตัว ขี้ยาเบียร์ ผู้คลั่งไคล้วัฒนธรรมป๊อป กูรูอินเทอร์เน็ตตัวยง”