สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 7 ส.ค. ศาลรัฐธรรมนูญไทยมีคำสั่งยุบพรรคฝ่ายค้านก้าวไปข้างหน้า (MFP) เนื่องจากการรณรงค์เรียกร้องการปฏิรูปประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งเป็นมาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญาไทย ประมวลกฎหมายอาญาไทย. ประมวลกฎหมายอาญาไทยต่อต้านความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
ผู้สังเกตการณ์เชื่อว่าชัยชนะของพรรคในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2566 ถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ที่สุดของพรรคการเมืองหลักของไทย
ในเดือนมกราคม ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าพรรคก้าวหน้าได้ละเมิดรัฐธรรมนูญไทยโดยพิจารณาแก้ไขกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติขอให้ศาลยุบพรรค
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการรณรงค์ของพรรคก้าวหน้าในการเปลี่ยนแปลงกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเป็นความพยายามแอบแฝงเพื่อลดอำนาจของราชวงศ์ไทย ในทางกลับกัน พรรคก้าวไปข้างหน้าปฏิเสธคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ
การยุบพรรค Moving Forward อาจทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งและผู้สนับสนุนพรรครุ่นเยาว์หลายล้านคนโกรธเคือง และวาระที่ก้าวหน้าของพรรค
อย่างไรก็ตาม การยุบพรรคก้าวหน้าไม่คาดว่าจะส่งผลกระทบสำคัญต่อการเมืองไทย เนื่องจากมีสมาชิกผู้นำพรรคทั้งในปัจจุบันและอดีตเพียง 11 คนเท่านั้นที่ถูกแบนจากกิจกรรมทางการเมืองภายใน 10 ปี
นั่นหมายความว่า ส.ส.พรรคก้าวหน้า 143 คน ยังคงที่นั่งในรัฐสภาไทย ในเวลาเดียวกัน สมาชิกของพรรคนี้กำลังพิจารณาที่จะจัดพรรคใหม่ในรูปแบบของพรรคการเมืองใหม่ เช่นเดียวกับที่เคยทำในปี 2020 เมื่อพรรค “บรรพบุรุษ” พรรคอนาคตก้าวหน้ายุบ ( FFP)
จากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญพบว่าข้อเรียกร้องให้ยุบพรรคก้าวหน้าเกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญในการเมืองไทยเมื่อเกิดความแตกแยกในเวทีการเมืองของประเทศในข้อตกลงยุติการเผชิญหน้าระหว่างฝ่ายกษัตริย์กับพรรคประชานิยมเพื่อไทยที่เป็นผู้ปกครอง . ของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร
สัปดาห์หน้า ศาลรัฐธรรมนูญจะพิพากษาคดีที่อดีตสมาชิกวุฒิสภาสายอนุรักษ์นิยม 40 คน ฟ้องร้องนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน จากการแต่งตั้งทนายความที่ต้องรับโทษจำคุกให้กับคณะรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ทวีสิน ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดและอ้างว่าการแต่งตั้งเป็นไปอย่างยุติธรรม
ในปี 2566 พรรคก้าวหน้าเสนอให้แก้ไขมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญาไทย ตามมาตรา 112 การกระทำใด ๆ ที่เป็นการดูหมิ่นราชวงศ์จะมีโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี
ในการเลือกตั้งทั่วไปเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2566 แม้จะได้ที่นั่งส่วนใหญ่ในรัฐสภา แต่พรรคก้าวหน้าก็ยังคงถูกแยกออกจากการรวมพรรคร่วมเพื่อจัดตั้งรัฐบาล
หัวหน้าพรรคก้าวหน้า พีต้า ลิ้มเจริญรัตน์ ก็ถูกตัดออกจากการแข่งขันชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศนี้ด้วย
“ผู้ประกอบการ นักเล่นเกมสมัครเล่น ผู้สนับสนุนซอมบี้ นักสื่อสารที่ถ่อมตนอย่างไม่พอใจ นักอ่านที่ภาคภูมิใจ”