ประเทศไทยมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริม “พลังอ่อน” เช่น การต่อสู้ (ศิลปะการต่อสู้) ศาสตร์การทำอาหาร (อาหาร) เทศกาล (เทศกาล) แฟชั่น (แฟชั่น) และภาพยนตร์ (ภาพยนตร์) และมีเป้าหมายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชั้นนำ
ผู้เชี่ยวชาญชาวไทยกล่าวว่าในบริบทที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและความต้องการของนักท่องเที่ยวก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย ประเทศนี้จึงปรับปรุงแผนการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาพักผ่อนในประเทศไทยอยู่เสมอ
ตามที่รองอธิบดีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รับผิดชอบด้านการตลาดและการสื่อสาร นายฉัตรทัน กุญจารา ณ อยุธยา แม้ว่าประเทศไทยจะมีข้อได้เปรียบจากการมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น วัด วัดโบราณ ห้างสรรพสินค้าที่ให้บริการช้อปปิ้ง ความต้องการ รีสอร์ท และชายหาดที่พลุกพล่าน แต่ประเทศยังเผชิญกับความยากลำบากและความท้าทายมากมายอันเนื่องมาจากผลกระทบของการระบาดของโควิด-19 รวมถึงวิกฤตเศรษฐกิจโลก
เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายเหล่านี้ ประเทศไทยมีแผนพัฒนาการท่องเที่ยวบางประการ
นายฉัตรทัน กุญชรา ณ อยุธยา กล่าวว่า ประเทศไทยมีแผนทั้งระยะสั้น รายปี หรือรายไตรมาส เพื่อกำหนดสิ่งที่ต้องทำและเป้าหมายที่จะต้องทำให้สำเร็จ รวมถึงแผนงานห้าปี
ประเทศไทยมุ่งหวังให้ประเทศเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างยั่งยืน
นายฉัตรทัน กุญชรา ณ อยุธยา กล่าวว่า จุดมุ่งหมายหลักของ ททท. คือการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ผู้มาเยี่ยมชม ไม่ใช่แค่การดึงดูดพวกเขาให้มายังประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการมอบประสบการณ์ที่ดีให้พวกเขากลับมาอีกในภายหลัง
นอกจากนี้ ในบริบทของการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน หากนักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ที่ดีก็สามารถแชร์บนโซเชียลเน็ตเวิร์กได้ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งสำคัญมาก
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ทางการไทยประสานงานกับพันธมิตร เช่น สายการบิน ตัวแทนการท่องเที่ยว สวนสนุก ร้านอาหาร และโรงแรม เพื่อทำการตลาด ส่งเสริม และโฆษณาการท่องเที่ยว
ปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริม “พลังอ่อน” เช่น 5F – การต่อสู้ อาหาร เทศกาล แฟชั่น และภาพยนตร์ นอกจากนี้ประเทศไทยยังมุ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์อีกด้วย
นายฉัตรทัน กุญชรา ณ อยุธยา กล่าวว่าเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการดึงดูดนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์คือการบริการ รองลงมาคือความยั่งยืน
[Ngành du lịch Thái Lan đang nhanh chóng hồi sinh sau đại dịch]
ในบริบทที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและความต้องการของนักท่องเที่ยวก็มีการพัฒนาเช่นกันหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประเทศไทยจึงแลกเปลี่ยนกับซัพพลายเออร์ สายการบิน โรงแรม และบริษัททัวร์ในปฏิทินเป็นประจำ… เพื่อจับกระแสและตอบสนองต่อ ความต้องการใหม่ .
เช่น ปัจจุบันนักท่องเที่ยวไทยนิยมล่องเรือ ดังนั้น ประเทศไทยจะพัฒนาทัวร์ล่องเรือเพิ่มมากขึ้น
แม้แต่ประเทศไทยก็มีมาตรการเพื่อดึงดูดแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ
เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีน ประเทศไทยจึงสนับสนุนให้มีการส่งเสริมเที่ยวบินตรงระหว่างท้องถิ่นของทั้งสองประเทศและการจัดเทศกาลสำคัญๆ ของจีนในประเทศไทย
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เฉลิมฉลองวันตรุษจีน ทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในห้าประเทศในโลกที่เฉลิมฉลองวันตรุษจีนที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศจีน
ททท. กล่าวว่ามีแผนจะจัดเทศกาลไหว้พระจันทร์ในประเทศไทยในปีนี้ (29 กันยายน) โดยมองว่านี่เป็น “จุดบวก” ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีน
จากข้อมูลของททท. ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 15 กุมภาพันธ์ ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวน 161,540 คน คาดนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยปีนี้ทะลุ 5 ล้านคน/.
“ผู้คลั่งไคล้อินเทอร์เน็ต เว็บนินจา ผู้บุกเบิกโซเชียลมีเดีย นักคิดที่อุทิศตน เพื่อนของสัตว์ทุกหนทุกแห่ง”