กระทรวงสาธารณสุขกำลังดำเนินแผนพัฒนายาแผนโบราณในช่วงปี พ.ศ. 2566-2570 เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านสุขภาพ ควบคู่ไปกับการรักษาความรู้ทางการแพทย์แผนโบราณและพืชสมุนไพร ผ่านการท่องเที่ยวและการดูแลสุขภาพตามปฏิทินเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติมายังประเทศไทย
ประเทศไทยใช้ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรเพื่อรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไม่รุนแรง (ภาพ: ไปรษณีย์กรุงเทพ) |
อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกรัฐบาลไทยกล่าวเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนว่าแผน 5 ปีมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการใช้การแพทย์ทางเลือกและการแพทย์แผนท้องถิ่นเพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้กับประเทศ กระทรวงสาธารณสุขได้รายงานถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย
อนุชากล่าวว่าแผนของกระทรวงสาธารณสุขมีวัตถุประสงค์หลักสามประการ เป้าหมายแรกคือการพัฒนาสมุนไพรสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง นอนหลับผิดปกติ และติดยา ถัดไป ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโรงพยาบาลและโรงงานผลิตยาสมุนไพรเป็นไปตามมาตรฐาน Good Manufacturing Practices (GMP)
ปัจจุบันโรงพยาบาลของรัฐที่ผลิตยาสมุนไพรในประเทศไทยจาก 61 แห่ง มีเพียง 45 แห่งที่ได้มาตรฐาน GMP ขณะที่ 7 แห่งอยู่ระหว่างการปรับปรุง
เป้าหมายสูงสุดของโครงการคือการพัฒนาศูนย์สุขภาพแบบดั้งเดิมเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบันมีสถานีอนามัย 160 แห่งจาก 570 แห่งที่ได้รับการรับรองภายใต้แผนดังกล่าว
นอกจากนี้ยังมุ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการแพทย์แผนไทย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จำนวนผู้ใช้สมุนไพรในการรักษาโรคเล็กน้อยเพิ่มขึ้นจาก 1.45% เป็น 15% ของประชากรไทย และการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนผู้ใช้การรักษาแบบดั้งเดิมจาก 4.58% ของประชากรปัจจุบันเป็น 20% .
เป้าหมายสูงสุดคือการเพิ่มมูลค่าการบริโภคสมุนไพรทั่วประเทศไทยเป็น 90,000 ล้านบาทภายในปี 2570
อนุชากล่าวว่านายกรัฐมนตรีของไทยแสดงความเชื่อมั่นว่าแผนของกระทรวงสาธารณสุขจะช่วยส่งเสริมความรู้ด้านการแพทย์แผนโบราณในท้องถิ่นและเพิ่มความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทย
(อ้างอิงจาก nandan.com.vn)