ประเทศไทยวางแผนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการกระจายเงิน 500 พันล้านบาท (13.75 พันล้านดอลลาร์) ให้กับผู้บริโภคประมาณ 50 ล้านคน
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกาศแผนแจกเงิน 10,000 บาท (275 ดอลลาร์) ให้กับผู้มีสิทธิ์ทุกคนเพื่อใช้ในธุรกิจในท้องถิ่น โครงการนี้มีมูลค่า 500 พันล้านบาท (13.75 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับทุนสนับสนุนจากงบประมาณปี 2567 และ 2568 และจะเปิดตัวในไตรมาสที่ 4
คาดว่าคนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ที่มีรายได้น้อยกว่า 70,000 บาทต่อเดือน และมีเงินในบัญชีธนาคารน้อยกว่า 500,000 บาท จะได้รับความช่วยเหลือผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ 10,000 บาท ตามเกณฑ์เหล่านี้ ผู้คนประมาณ 50 ล้านคนได้รับการชำระเงิน
นายเศรษฐา ทวีสิน กล่าวว่า นโยบายนี้จะช่วยกระตุ้นการเติบโตของ GDP ได้ 1.2 ถึง 1.6 เปอร์เซ็นต์ เขาพูดซ้ำๆ ว่าเศรษฐกิจจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญ และยังคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตอาจน้อยกว่า 1% ในไตรมาสแรกของปี 2567 หลังจากที่เติบโต 1.7% ในไตรมาสที่สี่ของปี 2566
แผนดังกล่าวยังมีเป้าหมายที่จะปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยของนายเศรษฐาเมื่อปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเกรงว่าการแจกเงินสดไม่ใช่วิธีที่มีประสิทธิภาพในการบรรลุการเติบโตที่ยั่งยืน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนเพิ่มการขาดดุลงบประมาณปีหน้าอีก 152.7 พันล้านบาท โดยอ้างถึงความจำเป็นในการใช้เงินเพิ่มเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ นักเศรษฐศาสตร์เกรงว่าชุดความช่วยเหลืออาจส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาท และบ่อนทำลายวินัยทางการเงินและการคลัง รวมถึงภาระหนี้สาธารณะ
เศรษฐบุตร สุทธิวารนฤพุฒ์ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย แย้งว่าเศรษฐกิจของประเทศอยู่ในแนวทางที่จะฟื้นตัวจากการระบาดใหญ่ และไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังจำนวนมาก
เปียน อัน –อ้างอิงจาก AP, บางกอกโพสต์–
“มือสมัครเล่นเก็บตัว ผู้บุกเบิกวัฒนธรรมป๊อป แฟนเบคอนที่รักษาไม่หาย”