(ด่านตรี) – นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทย ประกาศว่า ประเทศไม่มีแผนที่จะเชิญตำรวจจีนมาลาดตระเวนสถานที่ท่องเที่ยว ตามรายงานข้อขัดแย้งจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ประเทศไทยเพียงต้องการร่วมมือกับตำรวจจีนโดยการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่ายอาชญากรที่อาจปฏิบัติการในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน เศรษฐากล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างเดินทางไปซานฟรานซิสโกเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน
เขากล่าวว่ากระบวนการความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศจะไม่รวมถึงการส่งกองกำลังตำรวจจีนเข้ามาในประเทศไทย
พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันด้วยว่าความร่วมมือกับจีนภายใต้กรอบข้างต้นจะไม่รวมถึงตำรวจสายตรวจด้วย
นายเศรษฐาแสดงความเห็นข้างต้นตามหลังอธิบดีกรมสามัญ การท่องเที่ยว ฐปณี เกียรติไพบูลย์ ของไทย กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ว่าประเทศของเขากำลังเจรจากับจีนในโครงการลาดตระเวนร่วม
คำแถลงของนางสาวฐาปนีจุดชนวนให้เกิดข้อถกเถียงและก่อให้เกิดความกังวลอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับปัญหาอธิปไตย
นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ซึ่งอยู่ในซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา เพื่อเข้าร่วมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) กล่าวว่าข้อโต้แย้งดังกล่าวเกิดขึ้นจากข้อผิดพลาดในการรายงาน
ประเทศไทยกำลังพยายามฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งเป็นกลไกหลักในการเติบโตทางเศรษฐกิจ ก่อนเกิดโรคระบาด นักท่องเที่ยวชาวจีนถือเป็นสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หลั่งไหลเข้ามาประเทศไทยมากที่สุด
ในเดือนกันยายน รัฐบาลใหม่ของนายเศรษฐายกเลิกวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นเวลา 5 เดือน จากนั้นจึงขยายการใช้กฎระเบียบเหล่านี้กับนักท่องเที่ยวจากอินเดียและไต้หวันภายในเดือนพฤษภาคม 2567
ตัวเลขอย่างเป็นทางการระบุว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาเยือนประเทศไทยในปีนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 2.8 ล้านคน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของรัฐบาลที่ 4 ถึง 4.4 ล้านคนตลอดทั้งปี