การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีแผนที่จะเปิดตัวโครงการส่งเสริมการขายและการตลาดที่สำคัญต่างๆ เพื่อนำรายได้ในปี 2567 ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยไปอยู่ที่ 3 ล้านล้านบาท (มากกว่า 8.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ) หรือคิดเป็น 3 ล้านล้านบาท รายได้ก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19
งานท่องเที่ยว Thailand Travel Mart Plus จัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย (ภาพ: ไปรษณีย์กรุงเทพ) |
ธเนศ เพ็ชรสุวรรณ รองผู้อำนวยการ ททท. ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า ททท.กำลังดำเนินการสรุปแผนดังกล่าวเพื่อเสนอต่อรัฐบาลเพื่อขออนุมัติในเดือนหน้า ดังนั้น ททท. จะมุ่งเน้นส่งเสริมโปรแกรมการท่องเที่ยวที่มีมูลค่าสูง มีความหมาย และยั่งยืน
นายธเนศอ้างว่า ททท. มีแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ แม้กระทั่งปีงบประมาณ 2567 จะไม่ได้รับผลกระทบในกรณีที่การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้า เขาบอกว่ากิจกรรมส่งเสริมการขาย เที่ยวเมืองไทย ได้เริ่มดำเนินการโดยได้รับทุนสนับสนุนจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
นายธเนศ กล่าวว่า “เป้าหมายที่ททท.ตั้งไว้สำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในปีหน้าคือรายได้ 3 ล้านล้านบาท โดยได้มาจากตลาดต่างประเทศ 2 ล้านล้านบาท และจากตลาดในประเทศ 1 ล้านล้านบาท เรายังคาดว่าเส้นทางจะกลับมาเป็นปกติในเร็วๆ นี้ภายในปี 2567”
ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวเกือบ 11 ล้านคนในช่วง 5 เดือนแรกของปี Tanes กล่าวว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยกำลังดำเนินไปตามเป้าหมายที่ 25 ล้านคนภายในปี 2566 และบรรลุมูลค่าการซื้อขาย 2.38 พันล้านบาท
ปัจจุบัน ตลาดการเดินทางระยะสั้นยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการท่องเที่ยวไทย โดยคิดเป็น 70% ของความถี่เที่ยวบิน และคิดเป็น 62% ของรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมด ในขณะเดียวกัน อัตราการกลับมาใหม่ของเที่ยวบินระหว่างประเทศก็สูงถึง 70% และจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในฤดูหนาว
ในบรรดาตลาดระยะสั้นที่สำคัญ จีนและมาเลเซียได้ให้บริการผู้มาเยือนประเทศไทยมากกว่าหนึ่งล้านคนในปีนี้ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นระหว่าง 5 ถึง 6 ล้านคนต่อราย ในช่วง 5 เดือนแรกของปี ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยว 3 ล้านคนจากยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ซึ่งคิดเป็น 50% ของเป้าหมายที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว 6 ล้านคนในปี 2566