กลุ่มกบฏสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงประกาศว่าจะผลักดันกองทัพเมียนมาร์ออกจากเมืองเมียวดี ซึ่งเป็นเมืองชายแดนติดกับไทย
“เราเอาชนะกองพันที่ 275 ของกองทัพพม่าเมื่อวันที่ 10 เมษายน เวลา 22.00 น.” ปาโดะ ซอว์ ตา นี โฆษกกลุ่มกบฏสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ประกาศเมื่อวันที่ 11 เมษายน โดยบอกกับหน่วยของกองทัพพม่าที่ดูแล พื้นที่. เมืองเมียวดี ติดกับประเทศไทย
นี กล่าวเสริมว่า ทหารเมียนมาร์ราว 200 นายได้ถอยทัพไปยังสะพานเชื่อมเมียวดีกับเมืองแม่สอดทางตะวันตกของประเทศไทย เจ้าหน้าที่ชายแดนไทยยังยืนยันว่าเมืองเมียวดีถูกทำลายแล้ว
การต่อสู้ระหว่างกองทัพพม่ากับกลุ่มกบฏที่ปะทุขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาในเมืองเมียวดีได้ผลักดันให้พลเรือนชาวพม่าหลายร้อยคนหลบหนีไปยังดินแดนไทยเพื่อขอลี้ภัย
คนในพื้นที่กล่าวว่าการต่อสู้ในเมืองปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 9 เมษายน แต่เมื่อถึงวันที่ 11 เมษายน พวกเขาก็ไม่ได้ยินเสียงปืนอีกต่อไป
“การต่อสู้สิ้นสุดลงเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 10 เมษายน KNU ยังไม่ได้เข้าไปในเมืองแม้ว่าเราจะรู้ว่าพวกเขาเข้าควบคุมพื้นที่แล้ว เรายังคงซ่อนตัวอยู่ในบ้านของเรา” ชาวเมืองเมียวดีคนหนึ่งกล่าว
KNU ประกาศเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ได้ยึดครองฐานทัพทหารแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากเมียวดีประมาณ 10 กม. และกล่าวว่า ทหาร ตำรวจ และครอบครัวของเมียนมาร์มากกว่า 600 นายเข้ามอบตัวแล้ว
รัฐบาลทหารเมียนมาร์ยังไม่ประกาศสถานการณ์ในเมียวดี
เมียวดีดำรงตำแหน่งที่สำคัญมากในรัฐบาลทหารเมียนมาร์ มูลค่าการค้าผ่านเมียวดีโดยประมาณในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.1 พันล้านดอลลาร์ ตามการระบุของกระทรวงพาณิชย์ของเมียนมาร์
ประเทศไทยแบ่งพรมแดนยาว 2,400 กม. กับเมียนมาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยประกาศเมื่อวันที่ 9 เมษายนว่าประเทศของเขาพร้อมที่จะต้อนรับชาวพม่า 100,000 คนที่หลบหนีการสู้รบ ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยได้พบปะหารือเกี่ยวกับปัญหาชายแดน
รัฐบาลทหารเมียนมาร์ต้องป้องกันการโจมตีของกลุ่มกบฏทั่วประเทศ พร้อมรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจที่อ่อนแอนับตั้งแต่รัฐประหาร ประธานาธิบดี มี้น ส่วย ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาลทหารเมียนมาร์ เตือนเมื่อปลายปีที่แล้วว่าประเทศเสี่ยงที่จะถูกแตกแยก หากล้มเหลวในการจัดการกับการลุกฮือของกลุ่มกบฏ
ง็อก อันห์ (ตาม เอเอฟพี–