นักท่องเที่ยวชาวอินเดียได้รับการต้อนรับที่สนามบินภูเก็ต ประเทศไทย ธันวาคม 2566 (ภาพ: อฉัตยา ชื่นนิรันดร์)
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวกับสื่อมวลชนหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า นักท่องเที่ยวจากอินเดียและไต้หวัน (จีน) จะสามารถเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าจนถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567
ประเทศไทยเริ่มดำเนินโครงการยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจากอินเดียและไต้หวัน (จีน) เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 และสิ้นสุดในวันที่ 4 พฤษภาคม ภายใต้นโยบายนี้ ผู้มาเยือนจากอินเดียและไต้หวัน (จีน) สามารถอยู่ได้นานถึง 30 วันในการมาเยือนประเทศไทยครั้งเดียวโดยไม่ต้องขอวีซ่า
ประเทศไทยได้ผ่อนคลายกฎระเบียบด้านวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจากตลาดสำคัญหลายแห่ง รวมถึงจีนและรัสเซีย ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของประเทศไทยระบุว่าในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2567 ประเทศให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมากกว่า 12 ล้านคน เพิ่มขึ้น 39% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 กลุ่มนักท่องเที่ยวมาจากจีน มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลีใต้ และอินเดีย คิดเป็นครึ่งหนึ่งของจำนวนนักท่องเที่ยวมาเยือนไทยทั้งหมดในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้
การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทย โดยคิดเป็นประมาณ 20% ของการจ้างงานทั้งหมด และประมาณ 12% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
จากข้อมูลของ Bloomberg ประเทศไทยกำลังพยายามดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้เข้ามาในประเทศเพื่อปรับปรุงเศรษฐกิจที่ซบเซา ฝ่ายบริหารของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ตั้งเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยว 80 ล้านคนภายในปี 2570 เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากจำนวนนักท่องเที่ยว 41 ล้านคนในปี 2562 ก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในภูมิภาคมากขึ้น ประเทศไทยกำลังริเริ่มโครงการวีซ่าร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 5 ประเทศ แนวคิดเรื่องวีซ่าทั่วไปเป็นหนึ่งในความคิดริเริ่มในการเพิ่มรายได้และสนับสนุนเศรษฐกิจ
* ขอเชิญชวนผู้อ่านติดตามรายการที่ออกอากาศโดย Vietnam Television ทาง TV Online และ วีทีวีโก–
“มือสมัครเล่นเบคอน ผู้ฝึกดนตรี เก็บตัว ขี้ยาเบียร์ ผู้คลั่งไคล้วัฒนธรรมป๊อป กูรูอินเทอร์เน็ตตัวยง”