ความต้องการผลิตภัณฑ์ Apple ที่เพิ่มขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดได้ช่วยให้ชายไทยร่ำรวยได้อย่างรวดเร็วและมีโชคลาภมหาศาล
ความต้องการอุปกรณ์อัจฉริยะที่สูงในช่วงการแพร่ระบาดได้ช่วยให้ สุร คนิตทวีกุล ผู้ร่วมก่อตั้งและรองประธาน Com7 สะสมความมั่งคั่งได้อย่างรวดเร็ว ก้าวสู่ 50 บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทยในปี 2565 ด้วยมูลค่าสุทธิรวม 670 ล้านดอลลาร์ Forbes.
การปรับปรุงการจัดการคลังสินค้าพร้อมกับร้านค้าแบบผุดขึ้นและการขยายบริการ เช่น การเช่าซื้อ ช่วยให้ผู้ค้าปลีกไอทีในกรุงเทพฯ มีผลกำไรที่แข็งแกร่งในปีที่ผ่านมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Com7 เป็นหนึ่งในผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Apple รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กำไรสุทธิไตรมาสแรกของ Com7 อยู่ที่ 782.1 ล้านบาท (22.4 ล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้นประมาณ 33% จากปีก่อนหน้า นอกจากนี้ รายได้ของบริษัท I ยังเพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2564
พิสุทธิ์ งามวิจิตรวงศ์ นักวิเคราะห์วิจัยหลักทรัพย์อาวุโส บล.กสิกรไทย กล่าวว่า Com7 จะยังคงเติบโตในปี 2565
โดยคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิทั้งปีของบริษัทจะเพิ่มขึ้น 8% เป็น 2.9 พันล้านบาท และมีรายได้ 15% เป็น 59 พันล้านบาทจากปี 2564 “เราเชื่อว่า Com7 อยู่ในสถานะที่ดีที่จะพิชิตตลาด ผู้ค้าปลีก. นอกจากนี้ เราเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ของ Apple มุ่งเป้าไปที่ลูกค้าระดับไฮเอนด์ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะไม่ได้รับผลกระทบมากนักแม้ว่าเศรษฐกิจจะอ่อนแอ” นายพิสุทธิ์กล่าว
ในระยะยาว Com7 วางแผนที่จะกระจายกิจกรรมเพื่อลดการพึ่งพายักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของอเมริกา ในเดือนเมษายน Com7 ได้ร่วมมือกับบริษัทในเครือของบางกอกดุสิตเวชการ ผู้ประกอบการโรงพยาบาลเอกชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยที่มีมหาเศรษฐีประเสริฐ ปราสาททองโอสถ เป็นเจ้าของ เพื่อเปิดเครือข่ายร้านขายยาในห้างสรรพสินค้าในปีนี้
หนึ่งเดือนต่อมา บริษัทขอหุ้น 3.6% ในฟินเทคสบายเทคโนโลยีในกรุงเทพฯ เพื่อแลกกับหุ้น 40% ใน Double7 ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Com7 เพื่อเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น
สุร ขนิษฐวีกุล ซึ่งศึกษาด้านการเงินในสหรัฐอเมริกา เปิดร้านแรกที่พันธุ์ทิพย์พลาซ่า ห้างสรรพสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของกรุงเทพฯ ในปี 2539 ปัจจุบัน Com7 มีร้านค้ากว่า 1,000 แห่งภายใต้แบรนด์ Banana และ Studio7