แนวคิดในการเปิดสลากออมสินเพื่อการเกษียณถูกหยิบยกขึ้นมาเนื่องจากคาดว่าจำนวนผู้สูงอายุของประเทศไทยจะเข้าถึงมากกว่า 13 ล้านคนในปีนี้
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าจะมีการจับสลากรางวัลบำนาญทุกสัปดาห์ โดยประกาศรางวัลที่หนึ่งมูลค่า 1 ล้านบาท (27,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ) และรางวัลที่สองอีก 10,000 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 1,000 บาท
ในช่วงเวลานี้ ตั๋วที่ไม่ชนะจะถูกสะสมไว้เป็นเงินออม และผู้ซื้อจะสามารถถอนเงินจำนวนนี้ได้เมื่ออายุ 60 ปีเท่านั้น
นายเป่าภูมิกล่าวว่าสลากออมสินเพื่อการเกษียณอายุจะออกในรูปแบบดิจิทัลเท่านั้นและจะได้รับการสนับสนุนจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแห่งชาติ (NSF)
ตั๋วลอตเตอรีแต่ละใบมีราคา 50 บาท และแต่ละคนจะสามารถซื้อตั๋วลอตเตอรีมูลค่าสูงสุด 3,000 บาทต่อเดือนผ่านแอป NSF
ในขั้นต้น จะมีการจำหน่ายตั๋วสำหรับกลุ่มที่ได้รับการคัดเลือกประมาณ 20 ล้านคน
ซึ่งรวมถึงสมาชิกของ NSF บริษัทประกันภัยเอกชนภายใต้มาตรา 40 ของกฎหมายประกันสังคม และแรงงานนอกระบบ
นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า กระทรวงการคลังจะพิจารณาขยายกลุ่มเป้าหมายตามผลตอบรับจากผู้เข้าร่วม
นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการเผ่าภูมิ คาดว่าสลากออมสินเพื่อการเกษียณอายุจะใช้ได้ปีละ 780 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าโครงการอุดหนุนผู้สูงอายุของรัฐบาลอย่างมาก
โครงการบำนาญผู้สูงอายุของประเทศไทยเสนอการจ่ายเงินเดือนละ 600 ถึง 1,000 บาทแก่ผู้มีสิทธิ์อายุ 60 ปีขึ้นไป
ในปีงบประมาณ 2566 โครงการดังกล่าวทำให้รัฐบาลมีค่าใช้จ่าย 86 พันล้านบาท และคาดว่าจะมีมูลค่ามากกว่า 90 พันล้านบาทในปีงบประมาณนี้
เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังกล่าวว่า ลอตเตอรีออมเพื่อการเกษียณอายุที่เสนอนั้นเป็นเพียงแนวคิดเบื้องต้นเท่านั้น และจะต้องได้รับการพิจารณาและพิจารณาจากสาธารณะ
ประเทศไทยจำเป็นต้องแก้ไขพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแห่งชาติซึ่งอาจใช้เวลา 6 เดือนถึงหนึ่งปี แต่กระทรวงการคลังหวังว่าจะดำเนินการตามโครงการโดยเร็วที่สุด
“ผู้จัดงานที่อุทิศตน นักคิดที่รักษาไม่หาย นักสำรวจ ขี้ยาทางทีวี คนรักการเดินทาง ผู้ก่อปัญหา”