เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม นายกรัฐมนตรีไทย เศรษฐา ทวีสิน กำหนดให้ต้องเปิดเผยทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหมดเมื่อเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 ตามรายงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
เป็นผลให้เขาและภรรยาประกาศทรัพย์สินมูลค่า 1.02 พันล้านบาท (ประมาณ 29.7 ล้านเหรียญสหรัฐ) ได้แก่ รถยนต์ James Bond Aston Martin DB5 มูลค่า 1.4 ล้านเหรียญสหรัฐ อสังหาริมทรัพย์มูลค่า 314 ล้านบาท (9.1 ล้านเหรียญสหรัฐ) เครื่องประดับและอัญมณีมูลค่า 131.05 เหรียญสหรัฐ ล้าน. บาท (3.8 ล้านเหรียญสหรัฐ)
นายเศรษฐาได้ประกาศทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 659.39 ล้านบาท (19.2 ล้านเหรียญสหรัฐ) และนายแพทย์ภาคพิไล ภรรยาของเขา มีทรัพย์สินประมาณ 361.08 ล้านบาท (10.5 ล้านเหรียญสหรัฐ) ทั้งคู่ยังมีเงินกู้ยืมเงินเบิกเกินบัญชีประมาณ 9.73 ล้านบาท (มากกว่า 284,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ในธนาคาร (อนุญาตให้กู้ยืมได้มากกว่าจำนวนเงินที่แท้จริงในบัญชี)
นายกรัฐมนตรีไทยยังเป็นเจ้าของนาฬิกา 38 เรือน มูลค่ารวม 3.7 ล้านเหรียญสหรัฐ
นายเศรษฐากล่าวต่อสาธารณะที่ ป.ป.ช. ว่าเขาได้รับรายได้ 253.64 ล้านบาท (7.4 ล้านเหรียญสหรัฐ) ต่อปี ซึ่งรวมถึงเงินเดือน 153.57 ล้านบาท (4.4 ล้านเหรียญสหรัฐ) ด้วย นายกรัฐมนตรีไทยใช้จ่ายเงินประมาณ 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว
เพื่อตอบสนองต่อข้อเสนอแนะที่ว่าเขาเป็นนายกรัฐมนตรีที่ร่ำรวยที่สุดของประเทศไทย นายเศรษฐากล่าวว่าเขาทราบเรื่องนี้และทรัพย์สินที่เขาสะสมนั้นเกิดจากการทำงานหนักมาหลายปี
นักธุรกิจที่มีความสามารถ
นายเศรษฐาเกิดเมื่อปี พ.ศ. 2506 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมโยธาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ และปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยแคลร์มอนต์ในสหรัฐอเมริกา
นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทยเริ่มต้นอาชีพในตำแหน่งรองผู้อำนวยการบริษัทพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิลข้ามชาติในประเทศไทย ก่อนที่จะมาร่วมงานกับแสนสิริ ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัวเขา
ครั้งหนึ่งเขาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและซีอีโอของแสนสิริ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 880 ล้านดอลลาร์ในตลาดหุ้นไทย แต่ลาออกในเดือนเมษายน 2566 เพื่อเข้าสู่การเมือง