หนังสือพิมพ์ บางกอกโพสต์ รายงานว่าสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาของประเทศไทยจัดการประชุมร่วมกันในวันที่ 13 กรกฎาคมเพื่ออภิปรายและลงคะแนนเสียง ในการประชุมข้างต้น ชลนันท์ ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อนายปิตาเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 302 คน ได้แก่ สมาชิกแนวร่วม 8 พรรค นำโดย MFP
นายพิต้า ลิ้มเจริญรัตน์ (ที่สองจากขวา) ภาพ: บางกอกโพสต์
ตามรัฐธรรมนูญของไทย ผู้สมัครจะต้องได้รับคะแนนเสียงอย่างน้อย 376 เสียงจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 500 คน และสมาชิกวุฒิสภา 250 คนจึงจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ปัจจุบันแนวร่วม 8 พรรคมี 312 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร คาดว่าการลงคะแนนเสียงจะมีขึ้นในวันที่ 13 กรกฎาคม เวลา 17.00 น. (เวลาท้องถิ่น)
ก่อนการประชุม นายปิตาปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่าเขามั่นใจในความสามารถที่จะรับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่
นายสุทิน กลางแสง นักการเมืองทหารผ่านศึกเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตนเคยได้ยินเรื่องแผนเลื่อนการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี และอีกแผนหนึ่งที่จะยุติการลงคะแนนเสียงในวันที่ 13 กรกฎาคม
นายสุทินเตือนว่าการเลื่อนการลงคะแนนเสียงจะส่งผลเสียต่อกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ หากนายปิตาไม่ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี คาดว่าการลงคะแนนเสียงรอบต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 19 กรกฎาคม
ส.ว.กิตติรัตน์ รัตนวรหะ ประกาศว่า ส.ว.ส่วนใหญ่จะงดออกเสียง และคาดว่าจะมี ส.ว. เพียงประมาณ 10 คนเท่านั้นที่ลงคะแนนให้นายปิตาในวันที่ 13 กรกฎาคม
“ผู้ประกอบการ นักเล่นเกมสมัครเล่น ผู้สนับสนุนซอมบี้ นักสื่อสารที่ถ่อมตนอย่างไม่พอใจ นักอ่านที่ภาคภูมิใจ”