เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว 2 สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ คอนซาโดล ซัปโปโร ตกลงข้อตกลงในสัญญาศุภโชค ส่งผลให้สโมสรญี่ปุ่นจะยืมสตาร์ทีมชาติไทยเป็นเวลา 6 เดือน (มีโอกาสขยายออกไปอีก 6 เดือน)
ยิ่งไปกว่านั้น เช่นเดียวกับตอนที่ชนาธิปได้รับคัดเลือกจากเมืองทองยูไนเต็ดในปี 2560 คอนซาโดล ซัปโปโรได้รวมประโยคที่อนุญาตให้เขาซื้อคืนแบบผ่อนชำระในการโอนครั้งนี้
นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวกับสื่อมวลชนว่า “นี่เป็นโอกาสอันดีสำหรับศุภโชค สารชาติ ที่จะได้แสดงความสามารถและพิสูจน์ตัวเองในระดับที่สูงกว่าไทยลีก”
นี่เป็นก้าวสำคัญในอาชีพการงานของศุภโชค เราเชื่อว่าเขาจะพิสูจน์คุณค่าของตัวเองที่คอนซาโดล ซัปโปโร คลับ เพื่อช่วยปรับปรุงคุณภาพทีมไทยในอนาคต”
นอกจากข้อตกลงเรื่องศุภโชคสารชาติแล้ว สโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ดยังลงนามข้อตกลงในการพัฒนาสถาบันสอนฟุตบอลและการส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกันระหว่างบุรีรัมย์และซัปโปโรอีกด้วย ซึ่งหมายความว่าผู้อยู่อาศัยของทั้งสองเมืองสามารถปรับปรุงรายได้ผ่านกิจกรรมการท่องเที่ยวและเชิงพาณิชย์
ศุภโชค สารชาติเกิดเมื่อปี 2541 และครั้งหนึ่งถือเป็นอัจฉริยะฟุตบอลไทย เขายังมีน้องชายที่โด่งดังมากเช่นกันคือ ศุภณัฐ เหมือนตา ทั้งสองเติบโตที่ศูนย์ฝึกสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด สองพี่น้องฉายแววกันทั้งในระดับ U23 และในทีมชาติไทย
ศุภโชคหวังตามรอยรุ่นพี่ชนาธิปที่เล่นได้สำเร็จที่คอนซาโดล ซัปโปโร คลับ นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติญี่ปุ่นคือ ธีราทร บุญมาธาน (สวมเสื้อโยโกฮามา มารินอส)
ปัจจุบันการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติญี่ปุ่นมีทั้งหมด 12 รอบ คอนซาโดล ซัปโปโร อยู่ในอันดับที่ 9 ในการจัดอันดับ
“ผู้ประกอบการ นักเล่นเกมสมัครเล่น ผู้สนับสนุนซอมบี้ นักสื่อสารที่ถ่อมตนอย่างไม่พอใจ นักอ่านที่ภาคภูมิใจ”