สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เรียกร้องให้บริษัทจีนเพิ่มการลงทุนในไทย โดยเฉพาะด้านยานยนต์ไฟฟ้า อาหาร และสุขภาพ
การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทยที่รัฐบาลให้ความสำคัญ (ภาพ: เดอะ เนชั่น) |
การประกาศข้างต้นจัดทำโดยประธาน ส.อ.ท. เกรียงไกร เธียรนุกูล ภายหลังการประชุมกับ ฮั่น จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยเกี่ยวกับโอกาสการลงทุนในประเทศไทย
ประธาน ส.อ.ท. เชื่อเช่นนั้น ประเทศไทย สามารถเป็นฐานการผลิตของวิสาหกิจจีนได้ นอกจากนี้ เพื่อส่งเสริมการลงทุนและการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ ส.อ.ท. ได้จัดตั้งสถาบันเศรษฐกิจจีน-ไทย เพื่อร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของจีน เพื่อริเริ่มและส่งเสริมการค้าและการลงทุนใหม่ๆ โครงการ
นักลงทุนชาวจีนที่มีศักยภาพจะได้รับการแนะนำให้รู้จักกับกลุ่มอุตสาหกรรม 45 แห่งของ ส.อ.ท. รวมถึงระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนเพื่อขอความช่วยเหลือ ส.อ.ท. หวังว่าความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศและสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมภายในประเทศต่อไป
เกรียงไกรกล่าวว่าการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทยที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยเฉพาะในปี 2564 คณะกรรมการปฐมนิเทศรถยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ประเทศไทย ประกาศเป้าหมายของรถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็น 50% ของรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตในประเทศภายในปี 2573 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการอันทะเยอทะยานที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค
ในปี พ.ศ. 2565 รัฐบาลไทยยังได้ใช้สิ่งจูงใจหลายอย่าง เช่น การลดภาษีและการอุดหนุนค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 70,000 บาทถึง 150,000 บาท (ประมาณ 4,300 เหรียญสหรัฐ) ขึ้นอยู่กับรุ่นเพื่อส่งเสริมการบริโภคและการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงเวลาดังกล่าว พ.ศ. 2565-2566 ส.อ.ท. ขอให้รัฐบาลจีนช่วยไทยบรรลุเป้าหมายในการเป็นฐานการผลิตและส่งออกยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญ
ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า บริษัทด้านอาหารและสุขภาพของไทยสามารถดึงดูดนักลงทุนได้เช่นกัน เนื่องจากมีศักยภาพในการเติบโตสูง
“ผู้ประกาศข่าวประเสริฐเรื่องแอลกอฮอล์ที่รักษาไม่หาย นักวิชาการด้านวัฒนธรรมป๊อปที่ไม่ให้อภัย เว็บบาโฮลิคที่มีเสน่ห์อย่างละเอียด”