สถานการณ์หมอกควันในสิงคโปร์ (ภาพ: EPA)
นี่คือข้อมูลที่ได้รับจากรัฐมนตรีประสานงานกิจการทางทะเลและการลงทุนของอินโดนีเซีย นาย Luhut Binsar Pandjaitan เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดปรากฏการณ์ El Nino และสถานการณ์หมอกที่ชายแดนอีกด้านหนึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิงคโปร์
รัฐมนตรี Luhut กล่าวว่า รัฐบาลอินโดนีเซียจะใช้เทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น การสร้างฝนเทียมในช่วงต้น และเพิ่มปริมาณน้ำสำรอง เพื่อป้องกันไฟป่าพรุและไฟป่า
มลพิษหมอกควันข้ามพรมแดนรุนแรงที่สุดในปี 2559 เนื่องจากการตัดไม้ทำลายป่าในสวนปาล์มในเกาะสุมาตราและกาลิมันตันทำให้เกิดไฟป่า ในปี พ.ศ. 2556 ไฟไหม้ขนาดใหญ่ในเกาะสุมาตราและบอร์เนียวทำให้เกิดหมอกควันหนาทึบซึ่งลามไปยังหลายประเทศ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย บรูไน และไทย รัฐบาลอินโดนีเซียได้รับการร้องเรียนจากประเทศเพื่อนบ้านรวมถึงสิงคโปร์
ตั้งแต่นั้นมา ปริมาณหมอกควันก็ลดลงอย่างมาก โดยอินโดนีเซียให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและการให้ความรู้แก่ประชาชนมากขึ้น
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ศูนย์อุตุนิยมวิทยาอาเซียน (ASMC) คาดการณ์ว่าสภาพอากาศแห้งและความร้อนจัดจะยาวนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงตุลาคมในภูมิภาคอาเซียนตอนใต้ รวมถึงสิงคโปร์ โดยมีความเสี่ยงหมอกควันสูง ไฟป่าข้ามพรมแดน และอาจรุนแรงขึ้นจาก เอลนีโญ ซึ่งนำมาซึ่งความร้อนและความแห้งแล้ง
นอกจากนี้ ตามการคาดการณ์ของสำนักงานอุตุนิยมวิทยา ภูมิอากาศ และธรณีฟิสิกส์ของอินโดนีเซีย ความเสี่ยงของไฟป่าจะเพิ่มขึ้นเมื่ออินโดนีเซียเข้าสู่ฤดูแล้งตั้งแต่เดือนเมษายนปีนี้ ช่วงเวลานี้คาดว่าจะแห้งแล้งที่สุดในอินโดนีเซียตั้งแต่ปี 2562 เนื่องจากปรากฏการณ์ลานีญาที่อ่อนกำลังลง
* เชิญผู้อ่านติดตามรายการที่ออกอากาศโดย Vietnam Television ทาง TV Online และ วีทีวีโก!