นักลงทุนต่างชาติลงทุนใน 17 อุตสาหกรรมจากทั้งหมด 21 ภาคเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งอุตสาหกรรมการแปรรูปและการผลิตเป็นผู้นำด้วยเงินลงทุนรวมกว่า 2.17 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็น 70.1% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่ในอันดับที่สองด้วยเงินลงทุนรวมเกือบ 396.9 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นมากกว่า 12.8% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด ถัดมาคืออุตสาหกรรมค้าส่งและค้าปลีก การขนส่งและคลังสินค้าด้วยทุนจดทะเบียนเกือบ 202.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเกือบ 141.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามลำดับ ที่เหลือเป็นอุตสาหกรรมอื่นๆ
ณ วันที่ 20 มีนาคม 51 ประเทศและดินแดนได้ลงทุนในเวียดนาม โดยสิงคโปร์เป็นผู้นำด้วยเงินลงทุนรวมกว่า 978.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเกือบ 31.6% ของเงินลงทุนทั้งหมดในเวียดนาม ลดลง 42.7% จากช่วงเดียวกันในปี 2565
ไต้หวัน (จีน) รั้งอันดับสองด้วยมูลค่าเกือบ 407.1 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 13.1% ของเงินลงทุนทั้งหมด ซึ่งมากกว่าช่วงเวลาเดียวกัน 3.85 เท่า เนเธอร์แลนด์อยู่ในอันดับที่สามด้วยทุนจดทะเบียนรวมเกือบ 369 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นมากกว่า 11.9% ของเงินลงทุนทั้งหมด แล้วมาจีน เกาหลี สวีเดน..
ในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากสิงคโปร์แล้ว ประเทศอื่นๆ ก็ลงทุนในเวียดนามเช่นกัน โดยเฉพาะประเทศที่เข้าไปลงทุนในเวียดนาม ได้แก่ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา
โดยสิงคโปร์เป็นผู้นำประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ลงทุนในเวียดนามด้วยโครงการใหม่ 37 โครงการ และทุนจดทะเบียนรวม 978.44 ล้านเหรียญสหรัฐ ถัดมาที่ประเทศไทยกับ 6 โครงการใหม่ มูลค่าการลงทุนจดทะเบียนรวม 25.68 ล้านเหรียญสหรัฐ อันดับสามคือฟิลิปปินส์ซึ่งมี 3 โครงการใหม่และทุนจดทะเบียนรวม 1.96 ล้านเหรียญสหรัฐในเวียดนาม
สำหรับฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และกัมพูชา โครงการของประเทศเหล่านี้ที่ลงทุนในเวียดนามมีขนาดค่อนข้างเล็ก
สะสม ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 ทั้งประเทศมีโครงการที่ถูกต้อง 36,611 โครงการ โดยมีทุนจดทะเบียนรวมกว่า 442.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทุนสะสมของโครงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศอยู่ที่ประมาณมากกว่า 267.5 พันล้านดอลลาร์ หรือ 62.5% ของทุนจดทะเบียนที่ถูกต้องทั้งหมด
ในแง่ของการลงทุน FDI สะสมทั้งหมดจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 สิงคโปร์ยังคงเป็นเศรษฐกิจที่ลงทุนในเวียดนามมากที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของสิงคโปร์สะสมในเวียดนามสูงถึงประมาณ 72.07 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีโครงการ 3,154 โครงการในเดือนกุมภาพันธ์ 2566
โครงการลงทุนของบริษัทสิงคโปร์ในเวียดนามส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในสาขาอุตสาหกรรมแปรรูป ซึ่งคิดเป็นประมาณ 40% ของเงินลงทุนทั้งหมดของสิงคโปร์ในเวียดนาม รองลงมาคือภาคอสังหาริมทรัพย์ รองลงมาคือภาคการผลิตไฟฟ้า ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 45% ของการลงทุนทั้งหมดของสิงคโปร์ในเวียดนาม
ยอดรวมทุน FDI ของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ลงทุนในเวียดนามจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่มา: กระทรวงการวางแผนและการลงทุน
นอกจากนี้ ประเทศไทยเป็นเศรษฐกิจที่มีเงินลงทุนสะสมในเวียดนาม ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2566 เป็นอันดับสองในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศสะสมของไทยในเวียดนามมีมูลค่าประมาณ 1.313 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีโครงการ 687 โครงการในเดือนตุลาคม 2566
โครงการ FDI ของไทยส่วนใหญ่ในเวียดนามเป็นโครงการขนาดเล็ก โดยโครงการขนาดต่ำกว่า 10 ล้านดอลลาร์คิดเป็นเกือบ 80% ของจำนวนโครงการลงทุนทั้งหมด พื้นที่ที่ดึงดูดโครงการ FDI ของไทยจำนวนมาก ได้แก่ อุตสาหกรรมแปรรูปและการผลิต
จนถึงขณะนี้ บริษัทไทยได้ลงทุนใน 50 จังหวัดและเมืองในเวียดนาม แต่ส่วนใหญ่กระจุกตัวในเมืองและจังหวัดใหญ่ๆ ที่มีโครงสร้างพื้นฐานค่อนข้างเอื้ออำนวย เช่น นครโฮจิมินห์ . โฮจิมินห์ซิตี้ ฮานอย บินห์เดือง ด่งนาย บ่าเสียะ – หวุงเต่า
ส่วนประเทศอื่นๆ เช่น มาเลเซีย บูไน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ลาว กัมพูชา และเมียนมา มีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศสะสมในเวียดนามตามลำดับ สูงถึง 13.08 พันล้านดอลลาร์ 971 ล้านเหรียญสหรัฐ; 642 ล้านเหรียญสหรัฐ; 608 ล้านเหรียญสหรัฐ; 71.11 ล้านเหรียญสหรัฐ; 69.43 ล้านเหรียญและ 0.91 ล้านเหรียญ
“ผู้ประกาศข่าวประเสริฐเรื่องแอลกอฮอล์ที่รักษาไม่หาย นักวิชาการด้านวัฒนธรรมป๊อปที่ไม่ให้อภัย เว็บบาโฮลิคที่มีเสน่ห์อย่างละเอียด”