สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า นักธุรกิจเศรษฐา ทวีสิน พรรคเพื่อไทย ได้รับคะแนนเสียงในรัฐสภามากพอเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 ส.ค.
นายเศรษฐา มหาเศรษฐีด้านอสังหาริมทรัพย์ วัย 61 ปี จะเป็นผู้นำแนวร่วม 11 พรรคที่ก่อตั้งโดยพรรคเพื่อไทย รวมถึงพรรคสนับสนุนทหารอีก 2 พรรคที่มีความเกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่กำลังจะพ้นตำแหน่ง
พรรคร่วมพันธมิตรยังเห็นชอบให้นโยบายเพื่อไทยเป็นนโยบายสำคัญสำหรับรัฐบาลใหม่ รวมถึงนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล โดยจะเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 600 บาท/วันในปีหน้า
พวกเขายังยืนยันว่าพวกเขาจะปรับและรวมนโยบายเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับประชาชนและถือว่าการแก้ปัญหาสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
“ศัตรูตัวเดียวของผมคือความยากจนและความไม่เท่าเทียม เป้าหมายของผมคือการปรับปรุงชีวิตของคนไทยทุกคน” นายเศรษฐากล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ในการที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะต้องได้รับเสียงสนับสนุนอย่างน้อย 375 เสียงจากทั้งสองสภาในรัฐสภาที่มีสมาชิก 749 คน
วันที่ 2 ส.ค. พรรคเพื่อไทยประกาศเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นผู้สมัครลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีไทย
ผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ เศรษฐา มีประสบการณ์ทางการเมืองค่อนข้างน้อย เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งแสนสิริ หนึ่งในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย
การเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐายุติการหยุดชะงักทางการเมืองในประเทศไทยเป็นเวลาสามเดือน เมื่อพรรคก้าวหน้าที่ชนะการเลือกตั้งล้มเหลวในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ร่วมกับพรรคอื่นๆ
หลังจากนั้นพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพรรคที่เข้ามาเป็นอันดับสองในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ตัดสินใจลาออกจากการเป็นพันธมิตรกับเตียน จิง และตั้งพันธมิตรใหม่กับอีก 10 พรรค
“แฟนท่องเที่ยว เกมเมอร์ ผู้คลั่งไคล้วัฒนธรรมป๊อปฮาร์ดคอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโซเชียลมีเดียมือสมัครเล่น คอฟฟี่ เว็บเทรลเบลเซอร์”